ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ข่าวเด่น / ไฮไลท์ ย้อนกลับ
เคหะ MOU มูลนิธินายช่างไทย เสริมความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตชุมชน
09 ก.ค. 2568

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา โดยมี ดร.กมล ตรรกบุตร ประธานกรรมการที่ปรึกษามูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา นายคมสัน พิลาสมบัติ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ร่วมลงนามเป็นพยาน และ นายวสวัตติ์ กฤษศิริธีรภาคย์ เลขาธิการมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ พร้อมด้วยผู้บริหารทั้งสองหน่วยงานเข้าร่วมในพิธีดังกล่าว ณ ห้องประชุมชั้น 18 อาคาร ท.103 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย วัตถุประสงค์หลักของความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อร่วมกันดำเนินกิจกรรมอาสาด้านความปลอดภัย ตรวจสอบและประเมินโครงสร้างอาคาร ระบบไฟฟ้า ระบบป้องกันอัคคีภัย และเฝ้าระวังภัยพิบัติ รวมถึงการบรรเทาผลกระทบจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในชุมชนของการเคหะแห่งชาติ

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการบูรณาการระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคม โดยเฉพาะมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ซึ่งเป็นองค์กรที่มีเครือข่ายอาสาสมัครเชิงวิชาชีพหลากหลายสาขา ได้แก่ ผู้ตรวจสอบอาคารอาสา วิศวกรอาสา สถาปนิกอาสา นายช่างอาสา และยุวช่างอาสา ที่พร้อมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน ชุมชน สถานสงเคราะห์ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง

“การเคหะแห่งชาติมีภารกิจหลักในการจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง และยังต้องควบคู่ไปกับการดูแลคุณภาพชีวิตในทุกมิติ ความร่วมมือครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการตรวจสอบความปลอดภัยเชิงโครงสร้าง แต่ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และการสร้างเครือข่ายจิตอาสาที่แข็งแรงในระดับชุมชน” นายทวีพงษ์ กล่าว

การเคหะแห่งชาติจะให้การสนับสนุนด้านบุคลากร เครื่องมือ อุปกรณ์ และสถานที่ ขณะที่มูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา จะสนับสนุนทีมอาสาผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารในเชิงลึก เพื่อเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยให้กับที่อยู่อาศัย และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาในชุมชน นอกจากนี้ ความร่วมมือครั้งนี้ยังมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมต่อประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงหรือขาดแคลนทรัพยากร โดยการบูรณาการทั้งองค์ความรู้ด้านวิชาชีพ การปฏิบัติภาคสนาม และการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความมั่นคงปลอดภัยในการอยู่อาศัยของประชาชนในระยะยาว“นี่คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญในการแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยของการเคหะแห่งชาติ และความตั้งใจร่วมของมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการดูแลสังคม และสร้างมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยในชุมชนอย่างแท้จริง” ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวสรุป

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 16 กันยายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
29 ส.ค. 2568
หากจะมองหาผู้หญิงแกร่งในวัยกลางคนที่มาก ไปด้วยความสามารถ จากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งใน ต่างจังหวัดที่ขยันขันแข็ง มุมานะทั้งใฝ่เรียน หาความรู้ และทักษะต่างๆ เพื่อทำงานเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง และครอบครัวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และทุก ย่างก้าวของเธอมีความหมายอย่างยิ่ง จ...