กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการจับกุมสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ ณ วันที่ 8 เมษายน2563 สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินจริงทั้งขายผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์และร้านค้าทั่วไป เพิ่มอีก 3 ราย ทำให้ยอดการจับกุม รวม 276 ราย ส่วนไข่ไก่ยอดรวมทั้งประเทศอยู่ที่ 26 ราย ไม่พบการกระทำความผิดเพิ่ม
นายสุพพัต อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ และศูนย์ปฏิบัติการด้านการควบคุมสินค้า (ศปส) ฝ่ายสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัยได้เพิ่มอีก 3 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 1 ราย เป็นการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ พบจำหน่ายหน้ากากอนามัย กล่องละ 50 ชิ้น ราคากล่องละ 770 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 15.40 บาท) รวม 20,000 ชิ้น แจ้งข้อหากระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุม และจำหน่ายแพงเกินราคาสมควร ตามมาตรา 25 และ 29
ส่วนในต่างจังหวัดจับกุมได้เพิ่ม 2 ราย ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา 1 ราย โดยการล่อซื้อและจับกุม เป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสวยจำหน่ายหน้ากากอนามัย ในราคาชิ้นละ 20 บาท จำนวน 122 ชิ้น จึงแจ้งข้อหากระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินราคาสมควร ตามมาตรา 29 และจังหวัดอุทัยธานี 1 ราย เป็นร้านค้าทั่วไปพบจำหน่ายหน้ากากอนามัย ในราคาชิ้นละ 20 บาท แจ้งข้อหากระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาและจำหน่ายเกินราคาควบคุม โดยสถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์และแอลกอฮอล์ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 276 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 136 ราย และต่างจังหวัด 140 ราย
ทั้งนี้ โทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง มาตรา 28 ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท มาตรา 29 ข้อหาขายแพงเกินสมควร มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายสุพพัตกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถิติการจับกุมกรณีผู้จำหน่ายไข่ไก่แพงเกินจริงทั่วประเทศ ณ วันที่ 8 เม.ย.2563 ยอดรวมการจับกุมดำเนินคดีอยู่ที่ 26 ราย คงที่ ไม่พบผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม เนื่องจากความต้องการซื้อไข่ไก่ในการบริโภคมีปริมาณลดลงจนเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ และมีปริมาณผลผลิตไข่ไก่กระจายเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมีวางจำหน่ายทุกวันในห้างโมเดิร์นเทรด เช่นแม็คโคร โลตัส บิ๊กซี เทสโก้โลตัส และร้านค้าปลีกรายย่อย มีสินค้าวางจำหน่าย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะลงพื้นที่ตรวจสอบและจับกุม อย่างต่อเนื่อง ย้ำ “หากผู้บริโภคพบเห็นการกักตุนหรือค้ากำไรเกินควร ร้องเรียนได้ทันที ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด จะมีการเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดทันที” นายสุพพัตกล่าว