เมื่อเร็วๆนี้ เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนใน 3 หมู่บ้าน ของตำบลโคกสว่าง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี ได้รับความเสียหายจากพายุพัด จำนวน 14 หลังคาเรือน หลังเกิดเหตุ นายสุพล คำน้อย นายอำเภอสำโรง นำเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำรวจความเสียหายเพื่อรายงานขอรับอุปกรณ์มาใช้ซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ถูกพายุพัดให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ โดยขณะเข้าสำรวจก็ยังมีฝนตกลงมา แต่ไม่รุนแรงเหมือนเมื่อวานนี้
ชาวบ้านที่ประสบเหตุ กล่าวว่า ช่วงค่ำเกิดลมพัดแรง 3-4 นาที แรงลมได้พัดเอาหลังคาบ้านเรือน ยุ้งข้าว โรงเรือนใช้เลี้ยงสัตว์ปลิวว่อนไปตามกระแสลม หลังจากนั้น ก็เกิดฝนตกลงมานานเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสงบลง และน้ำฝนทำให้ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเสียหาย ต้องโยกย้ายเก็บข้าวของไปไว้ในที่ปลอดภัยโดยตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค.อุบลราชธานี เกิดพายุฤดูพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.บุณฑริก และนาตาล มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายรวมกันกว่า 70 หลังคาเรือน และที่อำเภอสำโรง เป็นการเกิดครั้งที่ 3 ของเดือนนี้ 2 อำเภอในหนองคายพังเฉียด 200 หลังคาเรือน
ในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบประจำจังหวัดหนองคาย ได้เร่งออกสำรวจความเสียหายจากเหตุพายุฤดูร้อนถล่มบ้านเรือนราษฎรในเขตจังหวัดหนองคาย เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่เทศบาลตำบลโพนสา และเทศบาลเมืองท่าบ่อ ที่มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย เสาไฟฟ้า และต้นไม้หักโค่นเป็นจำนวนมาก
จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย จำนวน 127 หลัง แยกเป็น อำเภอท่าบ่อ ในเขตเทศบาลตำบลโพนสา ได้รับความเสียหาย จำนวน 56 หลัง เทศบาลเมืองท่าบ่อ จำนวน 71 หลัง เสาไฟฟ้า จำนวน 5 ต้น และ อ.สระใคร ที่ ต.บ้านฝาง จำนวน 65 หลัง รวมเบื้องต้น 192 หลังคาเรือน ส่วนความเสียหายทั้งหมดอยู่ระหว่างการสำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว