นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ครั้งที่ 3/2563 เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานสำคัญด้านผู้สูงอายุ โดยมี นาวาตรี สุธรรม ระหงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
น.ต.สุธรรม เปิดเผยว่าที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบวาระสำคัญ 2 เรื่อง ดังนี้ 1) มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กองทุนผู้สูงอายุที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยที่ประชุมมีมติการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ทุกคนที่กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุ เป็นระยะเวลา 1 ปี (1 เม.ย. 63 - 31 มี.ค. 64) และ 2) มาตรการขับเคลื่อนสังคมสูงวัยคนไทยอายุยืน 4 มิติ ได้แก่ 1. มิติเศรษฐกิจ ควรบูรณาการระบบบำนาญและระบบการออมเพื่อยามสูงวัย และการปฏิรูประบบการเงินการคลังที่เหมาะสม เพื่อรองรับสังคมสูงวัย อีกทั้งส่งเสริมประชากรวัยทำงานกลุ่มที่เป็นลูกจ้างและไม่ใช่ลูกจ้างเตรียมความพร้อม เพื่อการใช้ชีวิตยามสูงวัย อาทิ การสมัครสมาชิกและการออมในประชากรกลุ่มเป้าหมายต่างๆ และการให้เด็กสามารถเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติได้ โดยพ่อ-แม่ เป็นผู้ออมแทน
2. มิติสภาพแวดล้อม ควรแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีผลใช้บังคับอย่างสอดคล้อง ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพมากขึ้น 3. มิติสุขภาพ ควรขยายกองทุนระบบการดูแลระยะยาวให้ครอบคลุมความจำเป็นพื้นฐานทุกด้านสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง การกระจายอำนาจให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการบูรณาการและขับเคลื่อนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในทุกมิติ การบูรณาการของศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตระดับตำบล เพื่อทำหน้าที่เป็น Operation Unit และการยกระดับผู้ดูแลมืออาชีพ Formal (Paid) Care Giver รวมทั้งการจัดให้มีศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพทุกอำเภอควบคู่ไปกับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ ผู้ป่วยระยะกลาง (Intermediate Care) และ 4. มิติสังคม ควรเพิ่มบทบาท อปท. ในการพัฒนาระบบรองรับสังคมสูงวัยคนไทยอายุยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับบริบทของแต่ละท้องถิ่น รวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ อาทิ บ้าน วัด วิสาหกิจ โรงเรียน และโรงพยาบาล เป็นต้น เพื่อรองรับสังคมสูงวัยในชุมชน
นาวาตรี สุธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ประโยชน์มากขึ้น เพื่อช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในทุกมิติ อาทิ การจัดทำบัญชีนวัตกรรมอุปกรณ์ช่วยเหลือในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุ (Assisted Devices) การออกระเบียบให้ อปท. ดำเนินภารกิจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสูงอายุ การส่งเสริมให้มีระบบเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ช่วยเหลือดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ และการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้เพิ่มพูนทักษะการทำงานและทักษะชีวิต โดยมอบหมายกระทรวง พม. โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) นำเสนอมาตรการดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป