วันนี้ (14 เมษายน 2563) นางสาวผาสุก สัมปุณณะโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เปิดเผยว่าเนื่องจากช่วงนี้ประเทศไทยมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด และจากสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 มีมาตรการขอความร่วมมือให้ทำงานที่บ้าน (Work from Home) เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่พักอาศัยและทำงานอยู่กับบ้านใช้ไฟฟ้าตลอดทั้งวันประกอบกับอากาศที่ร้อนทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานมากขึ้นส่งผลให้มีความต้องการพลังงานไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยสูงขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบได้แก่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ MEA จึงมีความห่วงใยประชาชนให้ระวังอันตรายและความเจ็บป่วยจากสภาพอากาศร้อน โดยควรดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำควรรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ ๆ และล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารเพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินอาหารที่สำคัญคือควรหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านหรือออกกำลังกายกลางแดดเพราะอาจเสี่ยงเป็นโรคลมร้อนอันตรายถึงชีวิตหากจำเป็นควรหาอุปกรณ์ป้องกันแสงแดดและดื่มน้ำสะอาดเป็นระยะเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำโดยเฉพาะ เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูง เพื่อป้องกันการเป็นลมแดด
นอกจากนี้ อุณหภูมิที่สูงจัดส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าจะทำงานหนักมากขึ้นในเวลาเท่ากันในช่วงปกติ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากช่วงนี้ส่วนใหญ่ประชาชนอาศัยอยู่ในบ้านตลอดเวลาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามาก เปิดปิดตู้เย็นบ่อยครั้ง ใช้พัดลมยาวนาน ปั๊มน้ำทำงานมากขึ้นเนื่องจากมีการใช้อุปโภคบริโภคมากขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นเหตุให้ค่าไฟมากขึ้นตามมาด้วย วิธีการที่จะช่วยให้ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยนอกจากการหมั่นดูแลบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานและปลอดภัยอยู่เสมอแล้วการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ โดย ปิดสวิตช์ไฟดวงที่ไม่ใช้ ใช้เครื่องปรับอากาศในช่วงเวลาจำเป็น ปรับเพิ่มอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศมาอยู่ที่ระดับ 26 องศาเซลเซียส แต่หากต้องการความรู้สึกเย็นสบายเท่ากับ 24 องศาเซลเซียส ให้เปิดพัดลมช่วยโดยไม่ต้องลดอุณหภูมิของแอร์ การเปิดแอร์พร้อมพัดลมจะประหยัดไฟได้มากกว่าการลดอุณหภูมิของแอร์ เพราะพัดลมช่วยเพิ่มความเร็วลม เพิ่มการเคลื่อนที่ของอากาศ ทำให้รู้สึกเย็นสบายมากขึ้น ล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หมั่นตรวจสอบสายไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าของท่านให้อยู่ในสภาพดีหากพบว่าชำรุดควรเปลี่ยนใหม่ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ รวมทั้งติดตั้งสายดินพร้อมเครื่องตัดไฟรั่วเพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้า ควรปิดสวิตช์และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรที่ก่อให้เกิดอัคคีภัย เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานเพื่อความปลอดภัยอยู่เสมอ ทั้งหมดนี้จะเป็นการช่วยประหยัดพลังงานลดค่าไฟฟ้าลงได้
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลด้านการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของ MEA ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line: @meathailand, Twitter: @mea_news, ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถดาวน์โหลด MEA Smart Life Application ฟรี ได้ที่ ได้ที่ App Store และ Google play คลิก http://onelink.to/measmartlife