นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านมาตรการป้องกันและช่วยเหลือประชาชน เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งแนวทางการปฏิบัติให้จังหวัดดำเนินการตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 1-3 รวมทั้งมติของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดให้ข้อมูลและชี้แจงในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศฯ และข้อกำหนดฯ รวมทั้งมติของ ศบค. ดังนี้
1) ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ของแต่ละจังหวัด
2) ดำเนินมาตรการตามแนวทางปฏิบัติ คำสั่ง และประกาศที่เกี่ยวข้อง อย่างเข้มข้นต่อเนื่องในมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศตามแนวทางของ ศบค. เบื้องต้นถึงวันที่ 30 เมษายน 2563
3) กำหนดปิดร้านสะดวกซื้อเวลาเดียวกันทั่วประเทศ ระหว่างเวลา 22:00 ถึง 04:00 น.ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศและข้อกำหนดฯ แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรอผลการประเมินสถานการณ์ของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติซึ่งเป็นสาระสำคัญในการควบคุมโรคติดต่อตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขที่จะนำเสนอต่อ ศบค. พิจารณาในภาพรวมทั้งประเทศต่อไป