นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) รับข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมชี้แจงว่าแม้ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้พืชกระท่อมพ้นจากความเป็นยาเสพติด แต่ยังไม่มีผลให้การเข้าไปเกี่ยวข้องกับพืชกระท่อมไม่เป็นความผิด พืชกระท่อมยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 การผลิต ปลูก นำเข้า ส่งออก จำหน่าย ครอบครอง หรือเสพพืชกระท่อม มีโทษตามกฎหมาย ดังนั้นการเข้าไปเกี่ยวข้องกับพืชกระท่อมไม่ว่าในลักษณะใดๆ ก็ตามไม่ว่าจะเป็นการผลิต/ปลูก จำหน่าย ครอบครอง เสพยังเป็นความผิดตามกฎหมาย และหากพบว่ามีการนำพืชกระท่อมไปผสมกับยาเสพติด หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทอื่น ก็จะมีความผิดฐานผลิตยาเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ และเมื่อเสพสารผสมนั้นเข้าสู่ร่างกายก็มีความผิดฐานเสพยาเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์เช่นกัน ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบและไม่เข้าไปกระทำผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวตอนท้ายว่าตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์การเสพพืชกระท่อมในรูปน้ำต้มกระท่อมผสม 4 คูณ 100 ที่เพิ่มขึ้นภายหลังการประกาศ พรก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินควบคุมสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และต่อมามีการประกาศห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และนายสมศักด์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้สำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาการเสพพืชกระท่อม การซื้อ-ขายพืชกระท่อมและยาเสพติดทุกประเภทผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในขณะนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้มอบหมายให้ สำนักงาน ปปส.ภาค 1-9 และ ปปส.กทม. ประสานกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่โดยเฉพาะ ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครองและตำรวจ เพื่อป้องกันและปราบปรามอย่างเคร่งครัดต่อไป ซึ่งหากพบบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย หรือพบเห็นการมั่วสุมยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติด ได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร.1386 ตลอด 24 ชั่วโมง