นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) และคณะ จะมีการลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งทั้งสองจังหวัดเป็นจังหวัดที่มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(ภัยแล้ง) จากจังหวัดที่มีประกาศสถานการณ์ภัยแล้งทั้งหมด 24 จังหวัด 145 อําเภอ 782 ตําบล 4 เทศบาล 6,824 หมู่บ้าน/ชุมชน ประกอบด้วย ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัยและเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิและศรีสะเกษ ภาคกลาง 7 จังหวัดได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ฉะเชิงเทราและปราจีนบุรี ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา
นายนิพนธ์ มท.2 เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้จะเป็นตรวจติดตามการดำเนินโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งหลังจากที่มีการจัดสรรงบประมาณไปแล้วก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งเป็นการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของการบูรณาการปฏิบัติงานของจนท. การบูรณาการสั่งใช้เครื่องจักรในหน่วยงานที่กำกับเพื่อช่วยเหลือแก้ไข ซึ่งตนในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบกำกับดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)อยู่นั้น มีภารกิจโดยตรงในการป้องกันดูแลพี่น้องประชาชนจากสาธารณภัยต่างๆ ซึ่งภัยแล้งก็เป็นเรื่องที่ประสบปัญหามาโดยตลอด จากสภาวะฝนทิ้งช่วงทำให้ขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร ขณะเดียวกันในหลายจังหวัดทราบว่าปริมาณฝนคาดการณ์ว่าน้อยกว่าปีก่อนๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องไปจัดการแก้ไข พร้อมทั้งการดำเนินการตามแผนบริหารจัดการน้ำในภาพรวม ซึ่งตนก็ได้กำชับและติดตามเพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างครอบคลุมทั้งภัยแล้ง อุทกภัย และภัยสาธารณะต่างๆ อย่างเรื่องปริมาณน้ำฝนทำอย่างไรเมื่อในมีฝนตกลงมากให้มีที่กักเก็บน้ำ(ทำที่ให้น้ำอยู่-ทำทางให้น้ำไหล)ไม่ให้ไหลเข้าท่วมพื้นที่สำคัญและไว้ใช้ประโยชน์ในฤดูแล้งปีถัดไปให้ได้ สิ่งนี้คือจุดสำคัญที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนได้ทั้งระบบ
นายนิพนธ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าตนจะติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในทุกพื้นที่ โดยจะลงพื้นที่จากพื้นที่ประกาศเขตให้การช่วยเหลือฯก่อน จากนั้นจะตรวจติดตามในพื้นที่อื่นต่อไป