ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ได้ติดตามสถานการณ์ความต้องการน้ำ และสถานการณ์ภัยพิบัติในปัจจุบัน โดยเฉพาะปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ในพื้นที่ภาคเหนือที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยในช่วงวันที่ 11 - 17 เมษายน 2563 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงและมีฝนตกจำนวน 4 วัน มีพื้นที่ได้รับผลประโยชน์จากการปฏิบัติการฝนหลวงทั้งสิ้น จำนวน 4 จังหวัด 17 อำเภอ ได้แก่
- จ.เชียงใหม่ (เมืองเชียงใหม่ แม่แจ่ม, จอมทอง, ฮอด, สะเมิง, หางดง, พร้าว, ไชยปราการ, ดอยเต่า, แม่วาง)
- จ. ลำพูน (ลี้, ทุ่งหัวช้าง)
- จ. ลำปาง (เสริมงาม, เถิน, แม่พริก)
- จ. เชียงราย (แม่สรวย, เวียงป่าเป้า)
การปฏิบัติการช่วงต้นเดือนเมษายน ยังคงมีอุปสรรคด้านสภาพอากาศที่ยังไม่เหมาะสมต่อการปฏิบัติการฝนหลวงมากนัก โดยพบว่า ค่าความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศที่ระดับปฏิบัติการ (5,000-10,000 ฟุต) เพิ่มขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมาแต่ยังคงมีค่าต่ำกว่า 60% แต่มวลอากาศยังมีเสถียรภาพค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อโอกาสการยกตัวของมวลอากาศที่จะพัฒนาตัวจนเป็นกลุ่มเมฆฝนได้ รวมทั้งเมฆที่เกิดขึ้นยังมีปริมาณและขนาดเม็ดน้ำในก้อนเมฆค่อนข้างน้อย ทำให้เมฆที่เกิดขุ้นไม่พัฒนาจัวและมีแนวโน้มสลายตัวเร็ว
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ได้เตรียมความพร้อมในการปฏิบัติการฝนหลวงตลอดเวลา (ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ) รวมทั้งการตรวจสภาพอากาศทั้งจากวิทยุหยั่งอากาศในช่วงเช้า และเรดาร์ตรวจวัดอากาศ (รอบการตรวจทุก 6 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง) โดยติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศระหว่างวันอย่างใกล้ชิด ผ่านระบบฐานข้อมูลของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งติดตามการายงานสภาพท้องฟ้าของเครือข่ายอาสาสมัครฝนหลวงบริเวณต่างๆ ในพื้นที่ภาคเหนือ
ทั้งนี้ สามารถแจ้งข้อมูลสถานการณ์ความต้องการฝนในพื้นที่โดยตรงทางโทรศัพท์หมายเลข 0-5327-5051 ต่อ 12 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทางเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร www.royalrain.go.th หรือทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร และศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ