คณะผู้แทนไทยระดับเจ้าหน้าที่ ซึ่งประกอบด้วยอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผู้แทนจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุมในระดับเจ้าหน้าที่สำหรับการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 2 (United Nations Environment Assembly: UNEA) ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา
ในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่จะมีการหารือถึงข้อมติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยที่ประชุมได้มีการหารือข้อมติต่างๆ ที่จะใช้เป็นผลลัพธ์ของการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 2 โดยมีประเด็นสำคัญ อาทิ การพิจารณารอบการประชุม UNEA การจัดการสารเคมี การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน การจัดการขยะ ในทะเล การแก้ไขปัญหาการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย เป็นต้น
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมฯ สนับสนุนร่างข้อมติต่างๆ และความเห็นเพิ่มเติม ใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การจัดการขยะและสารเคมีที่เหมาะสม (Sound management of Chemicals and wastes) การผลิตและบริโภคอย่างยั่งยืน (Sustainable Consumption and Production) และการจัดการขยะพลาสติกในทะเล (Marine plastic debris and micro-plastic) สำหรับการดำเนินงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีประเด็นที่สอดคล้องกับร่างมติดังกล่าว เช่น เห็นควรส่งเสริมให้มีการจัดการขยะครบวงจร โดยให้ความสำคัญของการลดขยะที่ต้นทางใช้หลัก 3Rs (Reduce, Reuse, Recycle) และการกำจัดขยะปลายทางอย่างเหมาะสม เช่น การนำขยะเป็นพลังงาน การให้ความสำคัญการจัดการขยะในพื้นที่ชุมชน จะสามารถลดปัญหาขยะพลาสติกในทะเลได้ ส่วนเรื่องการจัดการสารเคมี และของเสีย ควรบูรณาการและร่วมกันระหว่างอนุสัญญาต่างๆ และการส่งเสริมให้ทุกประเทศเน้นการมีส่วนร่วมทั้งของภาครัฐและเอกชนในการผลิตสินค้าและบริการสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเทศไทยได้ดำเนินการจัดซื้อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในภาครัฐตั้งแต่ ปี 2551 เป็นต้นมา