รมว.ยุติธรรม ตรวจห้องแล็บนิติวิทยาศาสตร์ หลังทดลองตรวจหาเชื้อโควิด หวังช่วยแบ่งเบางานสาธารณสุข เชื่อต่อยอดรับมือโรคใหม่ในอนาคตได้ เตรียมตรวจคัดกรอง จนท.ในกระทรวงฯ เริ่มจากกรมพินิจฯ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางไปยังอาคารสุขประพฤติ ที่ได้ทำห้องแล็บทดลองของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเยี่ยมชมวิธีการตรวจซากของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จะเน้นไปที่การตรวจดีเอ็นเอของมนุษย์เป็นหลัก แต่ขณะนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนและประยุกต์เครื่องมือที่มีอยู่มาตรวจไวรัสโควิด-19
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า โดยวิธีการคือ นำเอาเชื้อมาคัดกรองหาซากโควิด เพื่อนำเข้าตู้ที่ฉายด้วยแสงฟลูออเรสเซ็นต์ หรือแสงนีออน แล้วดูผลการสะท้อนของแสง หากเป็นซากของเชื้อโควิดจะดูดแสงมาก จะมีการสะท้อนออกมาน้อยกว่า 40 หน่วย หากสะท้อนออกมามากกว่านี้แสดงว่าไม่ใช่เชื้อโควิด ซึ่งวิธีการเหล่านี้จะสามารถช่วยในการตรวจหาเชื้อโควิดได้ ซึ่งปฏิบัติการแบบนี้จะสามารถรู้ผลได้ภายใน 3 ชั่วโมงครึ่ง และจะตรวจได้ประมาณ 200 เคสต่อวัน
โดยตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. ทางเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะเริ่มต้นคัดกรองเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานซึ่งเริ่มจากเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในส่วนของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร (บางนา) และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดปทุมธานี โดยจะนำอุปกรณ์ให้กับหน่วยพยาบาลของหน่วยงานเก็บสารคัดหลั่งที่ใช้สำหรับตรวจหาเชื้อ โดยไม่จำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่มีข้อบ่งชี้หรือเป็นผู้ที่สงสัยว่าจะเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเหตุผลสำคัญที่ต้องเริ่มปฏิบัติการกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน เพราะตามนโยบายของกระทรวงนั้น คือเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่เชื้อ โดยเจ้าหน้าที่ของสถานพินิจฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในพื้นที่ และถึงเวลาเลิกงานสามารถออกนอกพื้นที่อาจเป็นผู้ที่เป็นพาหะนำเชื้อไปติดกับเด็กหรือเยาวชนในสถานพินิจได้ ขณะที่หน่วยราชการในสังกัดต่อไปที่จะส่งอุปกรณ์ให้นำสารคัดหลั่งตรวจสอบผ่านแล็บของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ คือ กรมราชทัณฑ์
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ได้พบกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ซึ่งทางวุฒิสภาได้ใช้ตึกนี้ในการทำงานด้วย โดยได้อธิบายรายละเอียดต่างๆ ให้นายพรเพชรฟังว่า การนำเชื้อที่ตายแล้วมาทดลอง และนำเชื้อเข้ามาภายหลังเวลาราชการ และเป็นเชื้อที่ตายแล้วเข้ามา ในทางเทคนิคถือว่าไม่อันตราย นอกจากนี้ ยังได้ทำความสะอาดลิฟท์และประตูต่างๆ ด้วยยาฆ่าเชื้อ ดังนั้น ทุกคนไม่ต้องกังวล โดยนายพรเพชร ก็ยินดีที่ให้เราได้ใช้อาคารในการทดลอง และไม่ได้กลัวว่าเชื้อจะแพร่กระจาย เพราะเชื่อมั่นความสามารถและประสิทธิภาพของสถาบันนิติวิททยาศาสตร์ โดยการทดลองนี้ถือว่า จะเป็นประโยชน์กับกระทรวงยุติธรรม เช่น เรือนจำต่างๆ หากจุดไหนเสี่ยงเราสามารถไปเก็บเชื้อมาทดสอบได้ว่าเป็นไวรัสโควิดหรือไม่
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ หาพยาบาลวิชาชีพไปอยู่ในเขตของเรือนจำทั้ง 10 เขตทั่วประเทศ เพื่อเก็บตัวอย่างส่งมาให้เราตรวจดู ถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ต้องขังและญาติของพวกเขาได้อีกมาก ขอให้มั่นใจว่าแล็บของสถาบันฯ นั้น สามารถตรวจสอบสารและชี้ชัดว่าบุคคลใดเป็นผู้ติดเชื้อหรือไม่ เนื่องจากแล็บของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้รับการรับรองจากเจ้าหน้าที่ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และได้รับมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข
"ท่านนายกรัฐมนตรีย้ำเสมอว่า เราคือรัฐบาล ดังนั้น เราต้องทำงานร่วมกัน ช่วยกัน ไม่ใช่ทำงานแบบตัวใครตัวมัน ซึ่งหากงานนี้ทำได้ออกมาดี เราจะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระของงานกระทรวงสาธารณสุขได้อีกมาก และต้องขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์หลายท่านที่มาช่วยให้คำแนะนำ แม้ว่าวันนี้วิกฤตไวรัสโควิดจะดีขึ้น แต่องค์ความรู้ต่างๆ ที่เราได้รับจากการศึกษานี้ จะสามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต หากมีโรคร้ายใหม่เกิดขึ้นมา เราก็พร้อมที่จะให้ความสนับสนุน ทั้งนี้ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตั้งใจทำงาน เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้กับประเทศของเรา" นายสมศักดิ์ กล่าว