นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 เพื่อให้กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กปท.) สามารถสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณสุขได้ตามความจำเป็น เหมาะสม ทันต่อสถานการณ์ สอดคล้องกับแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย
อธิบดี สถ. กล่าวว่า สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ ได้เพิ่มอำนาจให้ “ประธานกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่” อนุมัติโครงการหรือกิจกรรมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณสุข กรณีเกิดการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อได้ตามความจำเป็นไม่เกิน 100,000 บาทต่อโครงการ โดยให้ถือว่าเป็นโครงการหรือกิจกรรมที่คณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่อนุมัติ
ทั้งนี้ หน่วยงานที่สามารถขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ประกอบด้วย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล, ศูนย์บริการสาธารณสุข, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก, อสม., องค์กรหรือกลุ่มประชาชนในพื้นที่ โดยนำเสนอโครงการที่เกี่ยวกับงานสาธารณสุข เพื่อขออนุมัติงบประมาณไปใช้ดำเนินการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เช่น การรณรงค์ให้ความรู้ป้องกันตามแนวทางกรมควบคุมโรค, การจัดหาอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ เจลล้างมือ เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ เฟซชีลด์, การคัดกรองกลุ่มเสี่ยง, การตรวจเยี่ยมเพื่อติดตามกลุ่มเสี่ยงในชุมชน และติดตามเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่น, การฝึกอบรมแกนนำเฝ้าระวังโรคและการเคาะประตูบ้านเพื่อคัดกรอง ไปจนถึงโครงการจัดบริการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงและบุคคลอื่นที่มีภาวะพึ่งพิงตามแนวทางของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ ยังขอให้ประธานกรรมการกองทุนฯ พิจารณาทบทวนหรือปรับเปลี่ยนโครงการที่อาจจะไม่สามารถดำเนินการในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ได้อีกด้วย
“กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้รับทราบว่า ขณะนี้กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กปท.) กว่า 7,738 แห่ง ได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรวมพลังคนไทยป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 แล้ว จำนวนกว่า 9,107 โครงการ มีการอนุมัติงบประมาณแล้วกว่า 574.78 ล้านบาท ขอให้พี่น้องท้องถิ่นไทยพิจารณาใช้ช่องทางงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นในการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นวาระสำคัญของทุกภาคส่วนที่ต้องร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาในเวลานี้” อธิบดี สถ. กล่าว