นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ประจำจุดตรวจ/จุดคัดกรองฯในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึง จังหวัดพัทลุง ซึ่งจะตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลย 41
โดย รมช.มท. ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจจนท.ด่านคัดกรองโควิดฯ ที่แรก ได้แก่ จุดตรวจฯบนทางหลวงหมายเลข 41 กม. ที่ 233+800 ต.เขานิพันธ์ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อม จนท.ที่เกี่ยวข้อง รายงานสถานการณ์การดำเนินการป้องกันโควิดฯในพื้นที่ให้ทราบ
จากนั้น นายนิพนธ์ รมช.มท. ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมด่านคัดกรองฯ จุดที่ 2 ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 41 อ.ถ้ำพรรณรา และ จุดที่ 3 ที่ อ.จุฬาภรณ์ ในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายศิริพัฒ พัฒกุลผวจ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และส่วนราชการให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์ฯ
ต่อมา รมช.มท. ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำด่านโควิดฯ จุดที่ 4 และ 5 ในพื้นที่จ.พัทลุง ได้แก่ ด่านคัดกรองที่ อ.ป่าพะยอม และ อ.ป่าบอน ซึ่งตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 41 ในเขตพื้นที่จ.พัทลุง โดยมีนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรายงานสถานการณ์ให้ทราบ
ซึ่งทั้งการตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำด่านคัดกรองโควิิด-19 ทั้ง 5 จุด ในพื้นที่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง ซึ่งทุกจุดเป็นพื้นที่รอยต่อแดนระหว่างจังหวัด นั้น นายนิพนธ์รมช.มท. ได้มอบเงินเพื่อสนับสนุนการทำงานของจนท.พร้อม เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เครื่องดื่ม อาหารสำเร็จรูปและน้ำดื่มให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำหน้าที่เฝ้าระวังประจำด่านฯ
นายนิพนธ์ มท.2 กล่าวในการพบปะกับเจ้าหน้าที่ประจำด่านคัดกรองฯ ว่า " ในนามของรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผมขอเป็นตัวแทนในการที่มาเยี่ยมขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ ทหาร องค์กรปกครองท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯ อสม. และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการปฏิบัติงานเพื่อเป็นแนวหน้าต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ประจำด่านคัดกรองต่างๆ ซึ่งแสดงให้ทั่วโลกเห็นแล้วว่า การรับมือกับไวรัสโควิด-19ของประเทศจัดการได้อย่างดีเยี่ยม สิ่งนี้สะท้อนได้เห็นถึงความทุ่มเทและความเสียสละของทุกท่านในการร่วมมือกันฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ และขอให้รับฟังข้อมูลจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019 (ศบค.) เป็นประจำ พร้อมทั้ง ขอให้เจ้าหน้าที่รณรงค์ประชาสัมพันธ์ความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวของพี่น้องประชาชนต่อโรคไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ และฝากไปยังพี่น้องประชาชนขอความร่วมมือได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัยทั้งของพี่น้องประชาชนเองและของเจ้าหน้าที่อีกด้วย