นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติ(รปช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กโดยมีเนื้อหาดังนี้
โรคอิจฉาตาร้อน
ไม่เข้าใจจริงๆว่า ทำไมฝ่ายประชาธิปไตย ไม่สนใจการทุจริตที่มีหลักฐาน เรื่องถุงยังชีพช่วยคนจนของอบจ.ลำพูน แต่กลับมาสร้างกระแสบิดเบือน เรื่องตัดงบบัตรทอง 2,400 ล้านบาท และงบกระทรวงสาธารณสุข 1,200 ล้านบาท
โชคดีที่ได้ฟังคำขี้แจง จากผู้เกี่ยวข้องถึงทราบว่า การบรรจุแพทย์ พยาบาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข 45,684 ตำแหน่ง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการต่อสู้กับโควิดนั้น ตามกฏหมายบังคับต้องใช้งบบัตรทองมาจ่ายเงินเดือนเท่านั้น มันก็แค่นี้เอง
ไม่ได้ไปตัดงบของเขาไปทำอย่างอื่น เพียงแต่กฏหมายไม่ได้ให้สป.สช.จ่ายเงินเดือนเอง แต่ต้องโอนให้สำนักงบตั้งเป็นงบเงินเดือน ก็แค่นี้เองครับ ส่วนเงิน 2,400 ล้านบาทก็ไม่ได้หายไปไหน เท่ากับว่าโรงพยาบาลต่างๆก็ประหยัดเงินบำรุงรวมไป 2,400 ล้านบาท เพราะใช้งบบัตรทองมาจ่ายเป็นเงินเดือนแทนแล้ว สุดท้ายก็คือเงินกระเป๋าซ้ายไปอยู่กระเป๋าขวา
ส่วนงบกระทรวงสาธารณสุข 1,200 ล้านบาท ก็แค่เงินที่ดำเนินการไม่ทันเพราะติดช่วงโควิด ต้องตัดส่งเป็นงบกลาง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ทำไมกระทรวงกลาโหม รอบนี้เขาตัดเข้างบกลางสูงถึง 18,000 ล้านบาท แต่กลับไม่ยอมพูดถึงสักคำ มันยิ่งสะท้อนว่า ฝ่ายประชาธิปไตยนี้เอาแต่สร้างข่าวบิดเบือน และที่สำคัญงบกลางส่วนใหญ่ก็ให้กระทรวงสาธารณสุขไปสู้โควิดอยู่ดี
การยิ่งสร้างข่าวปลอม ยิ่งสะท้อนว่าฝ่ายประชาธิปไตย"อิจฉาตาร้อน" ทั้งเรื่องผลการต่อสู้โควิดที่ได้ผลเป็นที่ชื่นชมทั่วโลก และการกล้าบรรจุข้าราชการให้พี่น้องแพทย์ พยาบาล เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เลยเก็บอาการไม่อยู่
กูรูด้านความสำเร็จกล่วว่า ใครที่"อิจฉาตาร้อน" ยิ่งสะท้อนว่าพวกเขาใกล้ที่จะล้มเหลว รัฐบาลโปรดมั่นใจที่จะเดินต่อไปบนพื้นฐานที่ทำปัจจุบันคือ "เร่งชี้แจง โปร่งใส ใช้คนเก่ง" แค่นี้ประชาชนจะออกมาช่วยปกป้อง และฝ่ายประชาธิปไตยก็คงต้องเฉาไปเอง