พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์ฯ ครั้งที่ 31/2563 โดยมี นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะโฆษกของกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสำนัก ผู้แทนกลุ่มเขต และผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
ที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยวันนี้ (24 เม.ย. 63) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมียอดผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น จำนวน 3 คน ยอดผู้ป่วยสะสม รวมจำนวน 1,457 คน ผู้ป่วยรักษาหายสามารถกลับบ้าน จำนวน 11 คน ยอดรวมผู้ป่วยรักษาหาย จำนวน 1,309 คน ผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษา 166 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 22 ราย สำหรับผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำด่านคัดกรองการเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งเดิมมีการจัดตั้งด่านคัดกรองฯ ทั้งสิ้น 13 ด่าน ปัจจุบันลดจำนวนลงเหลือ 7 ด่าน มีผลการตรวจคัดกรองฯ ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-23 เม.ย. 63 ดังนี้ เรียกตรวจยานพาหนะ รวมทั้งสิ้น 250,481 คัน ตรวจคัดกรองบุคคล รวมทั้งสิ้น 533,564 คน พบบุคคลเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งสิ้น 73 คน
กทม.ขอบคุณผู้มีจิตกุศลช่วยบรรเทาความลำบากเพื่อนร่วมชาติในสถานการณ์ปัจจุบัน
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้กำชับให้ทุกสำนักงานเขตดูแลการจัดระเบียบการรับ-แจก สิ่งของ เครื่องอุปโภค-บริโภคของประชาชนในพื้นที่ โดยให้ประสานสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ร่วมจัดระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และถูกต้องตรงตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รวมทั้งขอให้ปรับเปลี่ยนจุด รับ-แจกสิ่งของบางแห่งเพื่อความเหมาะสม ในส่วนกรณีการแจกสิ่งของบริเวณสวนหย่อมพระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งสำนักงานเขตพระนครได้ยกเลิกจุดรับ-แจกสิ่งของดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 63 เพื่อความเหมาะสม ความสวยงาม และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่บริเวณดังกล่าว แต่ยังคงมีประชาชนนำอาหารและสิ่งของมาแจกบริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผมอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ทราบว่ามีการยกเลิกจุดรับ-แจกสิ่งของจุดนี้แล้ว เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพระนครจึงได้อนุโลมให้แจกได้จนหมดรอบช่วงบ่าย ต่อมาในช่วงเวลา 14.30 น. มีประชาชนมาจอดรถเพื่อเตรียมนำอาหารมาแจกจ่ายให้กับประชาชนเพิ่มเติมโดยไม่ได้แจ้งประสานสำนักงานเขตพระนครล่วงหน้า เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ไปแจกสิ่งของอีกจุดหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน คือ บริเวณสวนหย่อม 13 ห้าง บางลำพู เนื่องจากประชาชนที่อาศัยอยู่ชุมชนโดยรอบบริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม รวมถึงคนไร้บ้านในบริเวณดังกล่าวได้รับแจกสิ่งของแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงบ่าย ทั้งนี้เพื่อกระจายสิ่งของช่วยเหลือให้แก่ประชาชนกลุ่มอื่นๆ ให้ได้รับอย่างทั่วถึง สำหรับกรณีดังกล่าวกรุงเทพมหานครต้องขออภัยผู้มีจิตอันเป็นกุศลในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น และขอขอบคุณในความหวังดีที่ต้องการจะช่วยเหลือผู้ประสบความลำบากในสถานการณ์ปัจจุบัน อย่างไรก็ดีเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความเหมาะสม ขอให้แจ้งประสานสำนักงานเขตพื้นที่ทราบล่วงหน้า เพื่อจัดระเบียบการแจก-รับสิ่งของเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัยทั้งผู้ให้และผู้รับ
เร่งหาแนวทางช่วยเหลือบุคคลเร่ร่อน
ในส่วนของดูแลบุคคลเร่ร่อนบริเวณสวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร โดยสำนักพัฒนาสังคม รายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณดังกล่าวมีบุคคลเร่ร่อน จำนวน 47 ราย เพศชาย 35 ราย เพศหญิง 12 ราย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มคนเร่ร่อน กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มคนที่เคยอาศัยอยู่ภายในชุมชนใกล้เคียง และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มคนว่างงาน ปัจจุบันทั้ง 3 กลุ่มได้รวมตัวกันเพื่อรับบริจาคอาหารและเครื่องดื่มจากผู้ที่มีจิตอันเป็นกุศล แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่ได้เป็นจุดที่กรุงเทพมหานครกำหนดให้เป็นจุดรับ-แจกสิ่งของ จึงมีความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ประชุมจึงได้มอบให้สำนักพัฒนาสังคมจัดทำแผนเยียวยาและจัดระเบียบการแจกอาหารและเครื่องดื่มให้แก่บุคคลกลุ่มคนดังกล่าว โดยคำนึงถึงมาตรการควบคุมป้องกันและลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคมตามหลัก Physical Distancing ระหว่างผู้แจกอาหารกับผู้รับแจกอาหาร และระยะห่างระหว่างผู้รอรับแจกซึ่งต้องมีระยะห่างไม่น้อยกว่า 1-2 เมตร จัดตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้ารับแจกอาหาร มีจุดแอลกอฮอล์ล้างมือ รวมทั้งขอให้ทุกคนในบริเวณรับ-แจกอาหารและสิ่งของสวมใส่หน้ากากอนามัย เป็นต้น สำหรับบุคคลเร่ร่อนที่มีความประสงค์จะเข้าพักที่บ้านพักพิงที่หน่วยงานราชการจัดไว้รองรับ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) พร้อมให้การช่วยเหลือ โดยกรุงเทพมหานครจะประสานงานให้ สำหรับผู้ที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัดและประสงค์จะเดินทางกลับภูมิลำเนา จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดส่งต่อไป
กทม.ชวนปลูกผักกินเองลดรายจ่ายครอบครัว...เหลือแบ่งปันเพื่อนบ้าน
กรุงเทพมหานคร โดยสำนักพัฒนาสังคม และสำนักสิ่งแวดล้อม จัดโครงการผักกระถางปลอดสารพิษเพื่อคุณภาพชีวิตพิชิตโควิด-19 โดยจะแจกต้นกล้าผักสวนครัวให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการกักตัวอยู่บ้าน คนตกงาน และคนมีรายได้น้อย ในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย และส่งเสริมให้ผู้ที่หยุดอยู่บ้านใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยผักสวนครัวที่แจกจ่ายนั้น จะเป็นผักกระถางปลูกง่ายให้ผลผลิตเร็ว ใช้พื้นที่การปลูกน้อย สามารถปลูกหน้าบ้าน หรือระเบียงบ้านได้ เช่น ผักบุ้ง กวางตุ้ง โหระพา ใบกระเพรา ผักกาดขาว และผักสลัด รวมกว่า 20,000 ต้น นอกจากนี้ กทม.ยังได้จัดทำชุดปลูก DIY จำนวน 2,500 ชุด ประกอบด้วย กระถาง เมล็ดพันธุ์ผัก ดินปลูก กาบมะพร้าวสับ ปุ๋ยหมัก สารสกัดไล่แมลง และคู่มือการปลูกผัก แจกจ่ายให้ประชาชนอีกด้วย
ประชาชนที่สนใจจะขอรับต้นกล้าผักสวนครัวและชุดปลูก DIY ไปปลูกด้วยตัวเอง หรือชุมชนต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ประสงค์จะให้เจ้าหน้าที่ไปแนะนำวิธีการปลูกให้กับคนในชุมชน สามารถติดต่อได้ที่ 1.สำนักพัฒนาสังคมกทม. (เขตดินแดง) โทร. 08 7008 7599 2. สวนหลวง ร.9 สำนักสิ่งแวดล้อม (เขตประเวศ) โทร. 08 9621 2909 หรือ 3.ศูนย์เกษตร ในรร.ฝึกอาชีพกทม.อาทรสังขะวัฒนะ (ทุ่งครุ) โทร.0813578186 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 เมย. 63 เป็นต้นไป ในวันและเวลาราชการ