นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี กล่าวถึงสถานการณ์โครโควิด 19 ของจังหวัดชลบุรี ในปัจจุบันว่า ตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยโควิด 19 สะสมรวม 87 คน หายกลับบ้านไป 67 คน เสียชีวิต 2 คนเป็นชาวรัสเซียและฝรั่งเศส ที่ อ.บางละมุง เมืองพัทยา และอยู่ในความควบคุมรักษาของแพทย์ขณะนี้ 18 คน ซึ่งสามารถดูแลผู้ป่วยเหล่านี้ได้อย่างสบาย ๆ
ซึ่งขณะนี้ ชลบุรีมีกลุ่มผู้ป่วยรายสุดท้าย คือ รายที่ 87 เป็นพนักงานอยู่ในโรงงานนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง อ.พานทอง และทางสำนักงานสาธารณสุข จ.ชลบุรี ก็ได้ตามไปตรวจคนที่อยู่ในคนข้างเคียงของรายที่ 87 จำนวน 64 คน ไม่ติดเชื้อ 40 คน รอฟังผล 24 คน หากผล 24 คนนี้ ไม่ติดเชื้อ ชลบุรีก็จะเป็น 0 ไม่มีกลุ่มผู้ป่วยเพิ่ม แต่ทางจังหวัดชลบุรี ก็ไม่นิ่งนอน ก็จะต้องติดตามเฝ้าระวังว่าจะมีผู้ป่วยกลุ่มใหม่อีกหรือไม่ หากมีผู้ป่วยใหม่ติดเชื้อขึ้นมา คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ชลบุรี ก็จะใช้วิธีเข้าไปหาสาเหตุว่าติดเชื้อมาจากที่ไหน แล้วไปกระจายสู่คนรอบข้างหรือไม่ โดยจะเข้าไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วน และรอบคอบ เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ก็จะสามารถควบคุมให้เชื้ออยู่ในวงจำกัด
โดยเอาบทเรียนจากหลายประเทศ ที่ปล่อยให้เชื้อกระจายเป็นวงกว้าง จนไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น จ.ชลบุรี จึงต้องใช้วิธีบล็อกจุดที่จะทำให้เชื้อขยายเป็นวงกว้าง ให้อยู่ในวงจำกัด จึงทำให้ จ.ชลบุรี ในขณะนี้ แทบจะไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม
ดังนั้น เมื่ออยู่ในวงจำกัด จ.ชลบุรี ก็จะเริ่มผ่อนปรนให้ประชาชนกลับมาประกอบอาชีพ ให้มีรายได้ โดยจะพิจารณาว่า ธุรกิจหรือกิจการไหน ที่สามารถผ่อนปรนได้ จ.ชลบุรี ก็จะผ่อนปรนให้ แต่ทั้งนี้ หลังผ่อนปรนไปแล้ว ก็จะต้องมีมาตราการป้องกันไม่ให้เชื้อกลับมาแพร่กระจาย อาทิ เช่น ร้านอาหาร ก็ให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย วัดอุณภูมิร่างใช้เจลล้างมือบ่อย เว้นระยะการนั่งให้ห่างกันคนละ 2 เมตร รวมทั้งไม่รับประทานร่วมกับญาติพี่น้อง เหมือนในอดีต พร้อมกับช้อนกลางเป็นของแต่ละคน ไม่ใช้ช้อนกลางร่วมกันเป็นต้น
ผวจ.ชลบุรี ยังกล่าวอีกว่า เกี่ยวกับว่า วันที่ 1 พ.ค.จะคลายล็อคหรือไม่นั้น ตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายให้ทุกจังหวัด กำหนดเงื่อนเวลาให้สิ้นสุดคำสั่งต่าง ๆ ของแต่ละจังหวัด ในวันที่ 30 เม.ย.63
แต่กลายจะคลายล็อคหรือจะผ่อนปรนให้ประกอบธุรกิจไหนได้บ้าง ต้องรอภาพรวมของประเทศ และมาตราต่าง ๆ ที่รัฐบาลกำหนด เพื่อให้สอดคล้องกันทั้งประเทศ และธุรกิจไหน ที่สามารถที่จะให้กลับมาเปิดได้ ก็ต้องมาดูว่ามีมาตรการป้องกันหลังเปิดไปแล้วอย่างไร เพื่อไม่ให้มีการระบาดของเชื้อโควิด 19 เป็นรอบที่ 2
ส่วนชายหาดพัทยาและชายหาดบางแสน ที่ กรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ชลบุรี มีการสั่งให้ปิด ห้ามไม่ให้เข้าไปชุมนุม สังสรรค์ หรือเอาอาหารเข้าไปรับประทานตามชายหาด ก็ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากหลังวันที่ 30 เม.ย.63 ทางกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ชลบุรี อนุญาตให้เปิดหาดได้ ก็ยังคงมีมาตรการ ห้ามชุมนุม ห้ามสังสรรค์ ห้ามนำอาหารไปรับประทานตามชายหาด เพราะจะชีวิตแบบเหมือนไม่ได้แล้ว ในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19 จะต้องใช้ชีวิตแบบ นิวโมเดล คือเว้นระยะห่างทางสังคม ใส่หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ พกแอลกอฮอล์ จนกว่า สถานการณ์จะคลี่คบายไปในทางที่ดี
ผวจ.ชลบุรี ยังกล่าวอีกว่า นักการเมืองจังหวัดชลบุรี ทุกระดับ ตั้งแต่นักการเมืองระดับชาติ การเมืองท้องถิ่น หรือคนที่ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง จะร่วมมือในการช่วยพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเขตที่ตนเองสมัครเลือกตั้ง หรือนอกเขต ก็จะเข้าช่วยเหลือ ให้พี่น้องประชาชนปลอดภัยจากโรคโควิด 19 โดย้างก็เอาแจกหน้ากากอนามัย แจกเจลและแอลกอฮอล์ล้างมือ หรือแม้กระทั่ง นำน้ำยาฆ่าเชื้อไปฉีดพ่นในทุกตำบล อบต.อำเภอ ๆ ละหลาย ๆ ครั้ง อีกทั้งยังนำข้าวสาร อาหารแห้งและอาหารปรุงสุก ไข่ ข้างของเครื่องใช้ ทุกชนิด ไประดมแจกให้กับพี่น้องประชาชน โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน หรือหวังคะแนนทางการเมือง และก็ไม่สามารถที่จะเลือกแจกได้ว่า เป็นหัวคะแนนหรือไม่หัวคะแนน ถือว่าเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยไม่มีการแบ่งแยก หลายคนไม่มีตำแหน่งทางการเมือง ก็ยังได้เข้ามาช่ยกันอย่างเต็มใจ
ตนคิดว่า จะเรื่องที่ดี ที่ทุกคนร่วมไม้ร่วมมือช่วยเหลือกัน นยมที่ทุกคนลำบาก ช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไร เพื่อบรรเทาและช่วยพี่น้องประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ พร้อให้ขวัญและกำลังใจ ให้ทุกคนมีชีวิตอยู่ โดยไม่รู้วึกว่า ถูกทอดทิ้ง โดยช่วยเหลือกันอย่างต่อิเนื่อง ในภาวะที่กำลังลำบาก ให้ประชาชนมีความมั่นใจ เป็นเรื่องของคนที่มีศักยภาพที่พอจะช่วยเหลือผู้อื่นได้
ตนขอชื่นชมว่า เป็นเรื่องที่ดีของจังหวัดชลบุรี อีกด้วย และหากนักการเมืองหรือใครก็ตามที่มีแนวคิดแนวทาง ที่จะช่วยเหลือสัคม ในภาวะวิกฤตนี้ ก็ขอให้เอาเรื่องมาแจ้ง กับตนหรือกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ชลบุรี ก็จะนำไปพิจารณา เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือประชาชนต่อไป
ส่วน นายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.ชลบุรี กล่าวว่า ตนไม่มีตำแหน่งทางการเมือง แต่ชาวบ้านมาแจ้งว่า มีความเดือดร้อน จากวิกฤต โควิด 19 ในช่วงแรก ตนเห็นว่าชายบ้านต้องการหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ด้วยความห่วง เพราะตนต้องการช่วยพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว จึงนำเอาหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ออกไปตระเวนแจกทั้งในพื้นที่และนอกเขต เพื่อบรรเดทาความเดือดร้อนและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน หรือคะแนนทางการเมือง เพราะตนสามารถที่พอจะช่วยเหลือความเดือดร้อนของประชาชนได้ ก็ยินดีทำ นอกจากนี้ก็ยังเอารถฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด 19 ไปฉีดพ่นตามถนนหนทาง และบ้านเรือนประชาชน เพื่อต้องการฆ่าเชื้อ หยุดการแพร่ระบาด หลายครั้งหลายหน เพราะตนมีศัพยภาพพอที่จะออกบรรเทาความเดือดร้อนได้ สร้างความมั่นใจให้ทุกคนว่าเชื้อจะไม่มีอยู่ โดยใช้งบส่วนตัว
ตนอยากให้ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ชลบุรี คลายล็อคหลังวันที่ 30 เม.ยง63 เพราะสถานการณ์ของโรคคิด จ.ชลบุรี อยู่ในวงจำกัด แทบจะมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม ดังนั้น จึงควรจะคลายล็อค ให้พี่น้องประชาชนกลับไปทำมาหากิน จะได้มีรายได้ไปเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แต่จะต้องอยู่ภายใต้มาตรการการควบคุมโรคโควิด 19 เพื่อมิให้กลับมาแพร่ระบาดเป็นรอบที่ 2
ส่วนตน หากทาง ผวจ.ชลบุรี อยากให้ตนเข้าไปช่วยเหลือ ร่วมแก้ไขปัญหา ปากท้องของพี่น้องประชาชน หลังคลายล็อค ให้กลับมาทำธุรกิจกันได้ ตนก็ยินดีเต็มใจช่วยเหลือ เพราะพี่น้องประชาชน เปรียบเหมือนคนในครอบครัว หากกินอยู่ดี ตนก็มีความสุขไปด้วย