นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงการครบรอบ 1 เดือนของการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯว่า วันที่ 26 เม.ย.ถือว่าครบรอบ 1 เดือนของการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เชื่อว่าสิ่งที่ออกมาได้รับความร่วมมือจากประชาชน ชุดข้อมูลทำให้เข้าใจสถานการณ์ เราเผชิญสถานการณ์ร่วมกัน ไม่ใช่แค่รัฐ บุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องรับผิดชอบ แต่เราทุกคนต้องร่วมมือ ซึ่งพิสูจน์มาแล้วในรอบ 1 เดือน เราทุกคนต้องประคองสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง การ์ดต้องไม่ตก เราปรับตัวเข้าสู่สภาวะการติดเชื้อได้อย่างดี จึงขอให้ทุกคนใช้เวลาตอนนี้ปรับตัวไปเรื่อยๆ ความสามารถของมนุษย์ทำให้เราคงอยู่ของเผ่าพันธุ์ได้หลายล้านปี สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นวิกฤติและหายนะ แต่เราจะปรับตัวได้ตลอด และก้าวผ่านวิกฤติไปได้ด้วยกัน
เมื่อถามว่า บางฝ่ายมองว่า ชีวิตวิถีใหม่ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบเรื่องการทำมาหากินที่ยากขึ้น หากดีขึ้นมีโอกาสจะกลับไปใช้วิถีชีวิตแบบเดิมได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เข้าใจว่าท่านอยากกลับไปใช้วิถีชีวิตปกติ แต่ที่เรายังกลับไปปกติไม่ได้ อยากให้เข้าใจเรื่องสภาวการณ์การเกิดโรคนี้ เพราะเป็นโรคอุบัติใหม่ เพิ่งเกิดมา 3-4 เดือน เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ คนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อคือคนที่อยู่ในวัยทำงานและไม่มีอาการ เราไม่รู้ว่าใครติดเชื้อบ้าง เขายังเดินในสังคมตรงไหน ถ้ารากลับไปใช้ชีวิตปกติเราจะมีโอกาสติดเชื้อจากรคนเหล่านี้ได้มาก การแพร่ระบาดวันนี้แม้เราจะเจอหลักสิบ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราคุมมันได้ แม้จะเจอเป็นศูนย์ก็ต้องดูว่า ต้องศูนย์นานเท่าไร และต้องศูนย์ทั้งโลกจึงจะมั่นใจได้ รอบบ้านเราตัวเลขยังทะยานขึ้นเกือบทุกประเทศ เชื้อในอากาศเต็มไปหมด ถ้าใช้วิถีเดิมเรามีโอกาสจะกลับมาระบาดใหม่ได้ ที่เราลงทุนไปในช่วงหลายเดือนก็แทบจะไม่ช่วยอะไร จะศูนย์ทันทีทันใด
“เวลาจะกลับไปสู่ภาวะปกติต้องใช้เวลานานพอสมควร การจะกลับมาได้คือ 1.ต้องมียารักษาให้หาย ไม่ใช่แค่ระงับยับยั้ง หรือต้าน หรือไม่ให้โรคกำเริบ ซึ่งไม่เพียงพอ และ2.มีวัคซีน ซึ่งถ้ามีวัคซีนการแพร่ระบาดของโรคจะจบลงตรงนั้น เท่าที่ได้รับทราบข้อมูลล่าสุดคือ ต้นปีหน้า เราจึงต้องใช้เวลาระหว่างนี้ในการควบคุมโรคให้ได้ ปรับพฤติกรรมให้ได้ ช่วงแรกหลายประเทศก็ไม่ยอมปรับตัว แต่พอตัวเลขขึ้นเป็นหลักหมื่นหลักแสนก็ออกมาตรการคล้ายกับเรา แต่เราออกก่อนเราเลยมีตัวเลขไม่สูงเท่าเขา ถ้าออกช้าคงไม่ต่างกัน ดังนั้น ถ้าเรายกเลิกเร็วก็จะกลับไปเหมือนต่างประเทศ การ์ดตกเมื่อไหร่สิ่งที่ลงทุนไปเป็นศูนย์ทันที”