นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้บริการรถรับจ้างสาธารณะผ่านแอพพลิเคชั่นว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้รายงานว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชงัญญัติ (พ.ร.บ.) รถยนต์ ซึ่งครอบคลุมทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รับจ้าง ให้ใช้แอพพลิเคชัน สำหรับเรียกใช้บริการ รถรับจ้างสาธารณะได้ ซึ่ง ขบ.จะเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ดังกล่าวมายังกระทรวงคมนาคมเพื่อลงนามและเสนอต่อกฤษฎีกา เข้าสู่ขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม หลังผ่านการพิจารณาของกฤษฎีกา จะส่งกลับมาที่กระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาเห็นชอบ จากนั้นจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งจะมีการเปิดประชุมสมัยสามัญครั้งที่1 ประจำปี 2563 ได้ในเดือน พ.ค. นี้ หลังจากผ่านการพิจารณาของสภาฯแล้ว นายกรัฐมนตรีจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ใช้บังคับต่อไปราวปลายปี 2563
นอกจากนี้ ขบ.ยังได้ดำเนินการยกระดับมาตรฐานการออกใบอนุญาตขับรถยนต์ ซึ่งใช้ต้นแบบจากประเทศที่มีมาตรฐานในการออกใบอนุญาตขับรถยนต์ ที่นำไปสู่การใช้รถใช้ถนนที่มีความปลอดภัย เช่น เยอรมนu สวิตเซอร์แลนด์ โดยมี 7 มิติ ได้แก่
1.การกำหนดสภาวะโรค โดยกำหนดโรคต้องห้ามและการออกใบรับรองแพทย์ ร่วมกับแพทยสภาที่เป็นมาตรฐาน 2. การทดสอบสมรรภาพทางร่างกาย โดยบูรณาการร่วมกับร่วมกับหน่วยงานทางเวชศาสตร์จราจร เพื่ดกำหนดรูปแบบในการประเมิน 3. การอบรมและทดสอบความรู้ภาคทฤษฎี ของผู้ขอรับใบอนุญาต โดยปรับปรุงเนื้อหาใหม่ และมีระบบ E-Learning วิชาพื้นฐานให้ศึกษาข้อมูลก่อนสอบ และกำหนดให้ต้องผ่านหลักสูตร อบรมการปฐมพยาบาลและการปฎิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงเนื้อหาการสอบภาคทฤษฎี เป็นแบบวิเคราะห์ต่อสถานการณ์
4. การอบรมขับรถและทดสอบความสามารถของผู้ขอรับใบอนุญาต ภาคปฏิบัติ ซึ่งจะมีคู่มือฝึกหัดขับรถจาก E-Learning ให้ศึกษาก่อน จากนั้นจะทดสอบและนำไปสู่การออกถนนจริง โดยมีครู นั่งทดสอบไปด้วย ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยมีเกณฑ์ให้คะแนน จึงจะผ่าน ซึ่งเป็นรุปแบบเหมือนหลายๆ ประเทศ 5. การบริหารจัดการ จะมีการปรับปรุง บทบาทจากผู้ควบคุมกำกับดูแล และกำหนดหลักเกณฑ์การตรวจสอบ ออกใบอนุญาต เป็นจัดตั้งศูนย์ทดสอบสำหรับผู้ขอรับใบอนุญาตเพื่อให้เกิดความสะดวกมากขึ้น โดยจะกำหนดคุณสมบัติ สำหรับการจัดตั้งศูนย์ทดสอบฯ ดังกล่าว
6. ปรับปรุงรูปแบบใบอนุญาตขับรถ ซึ่งปัจจุบันยังไม่เป็นสากล และเพื่อให้เป็นไปตามอนุสัญญาเวียนนาว่าด้วยการจราจรทางบก ค.ศ. 1968 ซึ่งครม.มีมติให้กระทรวงคมนาคม และขบ.ลงสัตยาบัน ซึ่งจะทำให้สามารถนำใบอนุญาตขับรถของไทย ใช้ในประเทศที่เป็นสมาชิก อนุสัญาเวียนนาฯ ได้ คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในปี 2564
การควบคุมพฤติกรรมการขับรถด้วยมาตรการตัดแต้ม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ซึ่งขบ.ได้ประชุมร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อบูรณาการการใช้ กม.จราจรและกม.ขนส่งฯร่วมกัน ในการกำหนดฐานความผิด ในการตัดคะแนน และการพักใช้ใบอนุญาต ที่จะเข้มข้นมากขึ้น
"เมื่อทั้ง 7 มิติบังคับใช้ครบ ต่อไปกรณีทำผิดกฎจราจรจะถูกตัดแต้ม จนถึงเกณฑ์ จะถูกยึดใบอนุญาต หากจะใหม่จะต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนที่ 1 ใหม่ " รมว.คมนาคมกล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า สำหรับการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กองทุนความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน (กปถ.) นั้น ขณะนี้ ขบ.ได้ดำเนินการกำหนดทะเบียนรถในรูปแบบพิเศษ เพื่อให้เป็นป้ายทะเบียนเฉพาะ สำหรับรถและเจ้าของรถที่ต้องการ โดยเบื้องต้นได้กำหนดขนาดแผ่นป้าย ขนาดตัวอักษร การจัดวางตัวอักษร ตัวเลข และข้อความ ต้องไม่ก่อให้เกิดการตีความที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย หรือมีความหมายกระทบ หรือทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคม
โดยจะเปิดให้จดทะเบียนโดยวิธีการประมูล โดยกำหนดอัตราขั้นต่ำไว้ที่ 1ล้านบาทต่อป้ายทะเบียน ซึ่งจะรองรับสำหรับบุคคลหรือนิติบุคคล ที่ต้องการป้ายทะเบียนรถแบบพิเศญเป็นการเฉพาะ ทั้งนี้ ในการขอใช้ทะเบียนรถยนต์ปกติ ยังสามารถดำเนินการได้ตามเดิม