ปลัดเกษตรฯ คาดจ่ายเยียวยาเกษตรกร 5,000 บาท ชุดแรกได้ 15 พ.ค.นี้ พร้อมขอให้เกษตรกรที่ไม่ได้ปรับปรุงบัญชี หรือยังไม่ได้ขึ้นบัญชีเกษตรกรให้รีบดำเนินการ ถึงวันที่ 15 พ.ค.นี้เช่นกัน โดยให้ติดต่อกับผู้นำท้องถิ่นหรืออาสาสมัครเกษตร ไม่ต้องเดินทางไปที่เกษตรอำเภอ
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าวที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) ถึงโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ว่า หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องการใช้จ่ายเงินกู้เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลการขึ้นทะเบียนของเกษตรกรจากหน่วยงานต่างๆ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะนายทะเบียนด้านการเกษตร ได้รวบรวมมาจาก 7 ฐานข้อมูล เพื่อตรวจสอบความซ้ำซ้อนความเป็นเกษตรกร และส่งฐานข้อมูลของเกษตรกรที่มีประมาณ 8.3 ล้านคน ไปให้กระทรวงการคลัง เพื่อขอให้ตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับมาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการช่วยเหลืออยู่ ไม่ว่าเราจะไม่ทิ้งกัน สวัสดิการข้าราชการบำนาญหรือระบบประกันสังคม โดยคาดว่า ข้อมูลที่ส่งไปให้ช่วยตรวจสอบชุดแรกและส่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ขึ้นเว็บไซต์ และวางแผนการโอนเงินให้เกษตรกรชุดนี้ ซึ่งอาจมีบางรายยังไม่มีบัญชี ธ.ก.ส.แต่สามารถแจ้งบัญชีอื่นๆ ได้นั้น จะได้รับเงินช่วยเหลือในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้
“ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ คิดว่าวันที่ 15 พฤษภาคม ในชุดแรกที่เราส่งรายชื่อไปแล้ว และก็ตรวจสอบความซ้ำซ้อน ทาง ธ.ก.ส.บอกว่าจะเริ่มจ่ายได้ในวันที่ 15 พฤษภาคม และทยอยจ่ายไป” ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่อยากเน้นย้ำคือ กลุ่มเกษตรกรที่ยังไม่ได้มาปรับปรุงบัญชี ซึ่งจะไม่ได้อยู่ใน 8.3 ล้านคน ที่ส่งให้กระทรวงการคลังกับกลุ่มเกษตรกรที่ยังไม่ได้ขึ้นบัญชีเกษตรกร แต่มีอาชีพทำการเกษตร ขอเชิญชวนให้มาขึ้นทะเบียนเกษตรกรใน 7 หน่วยงาน ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมหม่อนไหม การยางแห่งประเทศไทย สำนักงานอ้อยและน้ำตาลและยาสูบ โดยกำหนดให้ขึ้นทะเบียนถึงวันที่ 15 พฤษภาคมนี้
“การช่วยเหลือทาง ครม.มีมติเห็นชอบให้ช่วย 3 เดือน คือพฤษภาคมจนถึงเดือนกรกฎาคม ฉะนั้น อยากเชิญชวนเกษตรกรไปปรับปรุงทะเบียนและขึ้นทะเบียน ส่วนที่ขึ้นทะเบียนแล้วและมีการปรับปรุงทะเบียนแล้วในปี 62/63 กลุ่มนี้ไม่ต้องทำอะไร สามารถเชคข้อมูลจากกรมส่งเสริมการเกษตรได้ให้ข้อมูลไว้ในหมู่บ้านกับเว็บไซต์ทั้ง7 หน่วยงานและธ.ก.ส.เป็นรายชื่อที่ส่งไปแล้วในชุดแรก 8.3 ล้านคน แต่จะมีอีกกว่า 1 ล้านคน ที่ต้องขึ้นทะเบียนใหม่ในช่วงนี้ถึงวันที่15พฤษภาคม ซึ่งในการขึ้นทะเบียนกรมส่งเสริมการเกษตรให้สามารถขึ้นทะเบียนกับผู้นำท้องถิ่นกับอาสาสมัครเกษตรในหมู่บ้าน ซึ่งทั้งสองส่วนจะรวบรวมให้เจ้าหน้าที่ส่งให้เกษตรอำเภอ ไม่จำเป็นต้องไปถึงเกษตรอำเภอด้วยตนเอง” ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว