นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สินเชื่อซอฟต์โลนของแบงก์ชาติ วงเงินรวม 5 แสนล้านบาท ที่เปิดรับคำขอมา 2 สัปดาห์แล้ว มีการใช้วงเงินไปแล้วทั้งสิ้น 3.6 หมื่นล้านบาท ครอบคลุมลูกหนี้ 2.2 หมื่นราย มูลค่าสินเชื่อเฉลี่ยต่อรายอยู่ที่ 1.6 ล้านบาท กระจายครอบคลุมทั่วประเทศ โดย 74% เป็นเอสเอ็มอีที่อยู่ในต่างจังหวัด (ไม่รวมกรุงเทพฯ และปริมณฑล) และเป็นเอสเอ็มอีขนาดเล็ก
ทั้งนี้ สถาบันการเงินที่ตอบสนองต่อนโยบาย และยื่นคำขอเข้ามามากที่สุด คือ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ขณะที่มีสถาบันการเงินอีกหลายแห่งที่ยังส่งคำขอเข้ามาไม่มากหรือยังไม่ได้ยื่นคำขอเลย ธปท. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้กำชับและติดตามให้สถาบันการเงินเร่งช่วยเหลือลูกค้า
“การยื่นคำขอสินเชื่อซอฟต์โลนในช่วงที่ผ่านมายังมีไม่มากนั้น ส่วนหนึ่งเพราะมีวันหยุดหลายวันและหลายสถาบันการเงินใช้เวลามากกว่าที่คาดในเรื่องการจดจำนองหลักประกัน ทั้งนี้ ธปท. ได้ให้สถาบันการเงินเร่งดำเนินการ เพื่อให้สามารถส่งต่อสินเชื่อไปถึงลูกหนี้เอสเอ็มอีได้เร็วที่สุด” นายรณดล กล่าว
นายรณดล กล่าวอีกว่า ธปท. ขอย้ำว่าซอฟต์โลนแบงก์ชาติ ยังมีวงเงินเหลือเพียงพอ พร้อมให้สถาบันการเงินนำไปปล่อยกู้ต่อให้กับเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และขอให้สถาบันการเงินสื่อสารไปยังผู้ปฏิบัติงานที่สาขาให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การให้ซอฟต์โลน เช่น ห้ามคิดค่าธรรมเนียม ห้ามกำหนดเงื่อนไขการขายประกันต่าง ๆ เป็นหลักเกณฑ์การพิจารณาให้สินเชื่อ และหากพบว่าเอสเอ็มอีนั้นขาดคุณสมบัติในการขอซอฟต์โลนให้พิจารณาช่วยเหลือในรูปแบบอื่น ๆ ตามแนวทางของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง
สำหรับเอสเอ็มอีที่ต้องการขอสินเชื่อซอฟต์โลนแบงก์ชาติ สามารถติดต่อสถาบันการเงินที่เป็นลูกค้า หากพบว่ามีปัญหาในการขอสินเชื่อดังกล่าว สามารถติดต่อ call center ของสถาบันการเงินนั้น ๆ หรือศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินของแบงก์ชาติ (ศคง.) โทร. 1213