นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อย ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการที่ลูกค้าไม่สามารถนั่งรับประทานที่ร้านได้ ทำให้มียอดขายตกลงไปถึงกว่า 40-70% แม็คโคร จึงขอเคียงข้างผู้ประกอบการไทยและขอร่วมฟันฝ่าวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการเปิดพื้นที่ฟรีให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร มาตั้งโต๊ะขายอาหารกล่องและรับออเดอร์ดีลิเวอรี่ ช่วยให้ร้านอาหารกว่า 1,000 ราย มีช่องทางในการจำหน่าย และมีรายได้เพิ่มขึ้น
“การเปิดพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารนี้ แม็คโครได้เริ่มต้นตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ที่ผ่านมา โดยให้พื้นที่บริเวณหน้าทางเข้าสาขา ใน 46 สาขาก่อน โดยที่ผ่านมามีร้านอาหารรายย่อยจำนวนกว่า 1,000 รายหมุนเวียนเข้าร่วมโครงการ โดยการตั้งโต๊ะรับออเดอร์และขายอาหารกล่องหน้าสาขา ภายใต้มาตรการรักษาระยะห่าง Social distancing ให้แต่ละบูทห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร และควบคุมความปลอดภัยในด้านต่าง ๆ อย่างเข้มข้น ทั้งนี้โครงการนี้ในเฟสแรกจะดำเนินอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมศกนี้ และหากมีร้านอาหารสนใจเข้าร่วมเพิ่มขึ้น ก็อาจพิจารณาขยายระยะเวลาหรือเพิ่มสาขามากขึ้น”
นอกจากนี้ แม็คโคร ยังมีมาตรการช่วยเหลือด้วยการเปิดอบรมคอร์สออนไลน์ สอนทำอาหารกล่องดีลิเวอรี่ และเทคนิคต่างๆ เพื่อช่วยให้ร้านอาหารปรับตัวรับกระแสการบริโภคในรูปแบบใหม่ โดยอบรมผ่านเว็บไซต์ www.makrohorecaacademy.com หรือ MHA ที่มีผู้ชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษา และอบรมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมโปรโมทร้านอาหารผ่านโครงการ “พร้อมสั่ง พร้อมเสิร์ฟ” ที่รวมร้านเด็ด ต้องบอกต่อ ทั่วประเทศกว่า 2,000 แห่งผ่านช่องทางออนไลน์ของแม็คโครด้วย
“ในทุกมาตรการความช่วยเหลือที่แม็คโครได้ออกมาเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร ได้รับความสนใจมาก เพราะร้านอาหารต่างก็อยากปรับตัวให้อยู่รอดในยุควิถีใหม่หรือนิวนอร์มอล ซึ่งในช่วงเวลานี้ ที่ผู้ประกอบการประสบความยากลำบากในการทำธุรกิจ เราต้องช่วยกัน แม็คโครขอยืนหยัดเคียงข้างสมาชิกผู้ประกอบการในทุกช่วงเวลาตลอดไป” นางศิริพร กล่าว
ทั้งนี้แม็คโคร ได้สร้างเครือข่ายสำหรับผู้ประกอบการกลุ่มโฮเรก้า คือ “แม็คโคร โฮเรก้า อะคาเดมี” หรือ MHA ซึ่งมีพันธกิจหลักคือ มุ่งเน้นการเป็นแหล่งรวมความรู้แบบครบวงจรให้กับผู้ประกอบธุรกิจอาหารมืออาชีพ ผ่านระบบออฟไลน์และออนไลน์ ใน 5 องค์ประกอบคือ การเป็นสื่อกลางในการให้ความรู้ (Knowledge Media), แหล่งการจัดสัมมนาและเวิร์คช้อป (Seminar & Workshop), การเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ (Online Learning), ที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business Advisor) และ เป็นเครือข่ายทางสังคมของผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร (Business Networking) เพื่อพัฒนาเแก้ข้อจำกัด เพิ่มจุดแข็ง และสร้างจุดขาย ช่วยให้ผู้ประกอบการผ่านพ้นทุกปัญหาไปได้