ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
“พาณิชย์” จับเพิ่ม 3 ราย ในกรุงเทพฯ พบจำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ ไม่ปิดป้ายแสดงราคา
11 พ.ค. 2563

นายสุพพัต  อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์และศูนย์ปฏิบัติการด้านการควบคุมสินค้า (ศปส) ฝ่ายสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า ระหว่างวันที่  8 - 10 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ เพิ่ม 3 ราย ดังนี้

กรุงเทพฯ 3 ราย เป็นร้านค้าทั่วไป 2 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบผ้าและแบบแฟชั่น ในราคาชิ้นละประมาณ 20 – 80 บาท นอกจากนี้ยังพบจำหน่ายเจลล้างมือแอลกอฮอล์ ขนาด 50 มล.  ในราคาชิ้นละ 40 บาท แอลกอฮอล์ ขนาด 80 มล. ในราคาขวดละ 80 บาท สเปรย์แอลกอฮอล์ ขนาด 1,000 มล. ในราคา 20 บาท และแผ่นแอลกอฮอล์ บรรจุกล่องละ 100 แผ่น ในราคา 100 บาท ทั้งสองรายกระทำความผิดข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ โดยไม่มีการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย ตามมาตรา 28  อีก 1 ราย เป็นร้านขายยาจำหน่ายหน้ากากอนามัย แบบธรรมดาบรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคาชิ้นละ 750 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 15 บาท) กระทำความผิดข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาแพงเกินสมควร ตามมาตรา 29  ส่วนในต่างจังหวัดไม่พบผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 420 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 189 ราย และต่างจังหวัด 231ราย

สำหรับสถานการณ์การจำหน่ายไข่ไก่ในขณะนี้ เข้าสู่ภาวะปกติประชาชนซื้อเท่าที่พอเพียงต่อการบริโภค เนื่องจากมีปริมาณผลผลิตไข่ไก่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น สามารถสั่งซื้อและส่งสินค้าได้ตามปกติ จากการ    ติดตาม ตรวจสอบ และจับกุม ไม่พบการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ยอดรวมการจับกุมสะสม ทั้งหมด 29 ราย

ทั้งนี้ โทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้งมาตรา 26 ข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย มาตรา28 ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทและมาตรา 29ข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายสุพพัตกล่าวเพิ่มเติมว่า ในสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า (โควิด – 19) เตือนผู้ที่มีพฤติกรรมกักตุน และขายสินค้าแพงเกินจริงโดยเฉพาะสินค้าหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในสถานการณ์ดังกล่าว  กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 หากพบการกระทำความผิด เพราะถือเป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน  ทั้งนี้ “หากประชาชนพบมีการกักตุนสินค้าและขายสินค้าแพงเกินจริง สามารถร้องเรียนได้ทันทีที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด” นายสุพพัตกล่าว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...