พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เนื่องจากการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่เสื่อมโทรมที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กรมป่าไม้ส่งมอบเพื่อนำไปดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตั้งแต่ปี 2536 นั้นยังมีแปลงที่ดินซึ่งยังมิได้ทำการสำรวจรังวัดเนื้อที่ประมาณ 2 ล้านไร่ จึงมีการเสนอให้ใช้ มาตาร 44 ในการทวงคืนที่ดินของรัฐ โดยในครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายที่มีความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำจากผู้มีที่ดินโดยมิชอบจำนวนมากเพื่อไปสู่เกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทำกิน และจะเป็นการนำทรัพยากรที่ดินไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ภาคเกษตรอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ด้านนายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ไม่สามารถดำเนินการในที่ดินอีก 2 ล้านไร่ดังกล่าว เพราะผู้ถือครองที่ดินรายใหญ่ไม่ให้ความร่วมมือ หรือไม่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน มีการปกปิดตัวตนผู้ถือครองที่แท้จริง โดยความร่วมมือของผู้ปกครองท้องที่ และข้าราชการบางราย ประกอบกับส่วนใหญ่เป็นผู้ถือครองที่ดินรายใหญ่ ที่ครอบครองที่ดินเกินกว่าจำนวนเนื้อที่ตามที่กฎหมายปฏิรูปที่ดินกำหนด ซึ่งถือเป็นอุปสรรต่อการติดตามนำที่ดินของรัฐไปดำเนินการจัดให้แก่เกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทำกิน
ทั้งนี้เลขาฯสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ยังกล่าวอีกว่าจำเป็นต้องเสนอให้มีการใช้อำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มาสนับสนุนกระบวนการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิผล และเกิดความเป็นธรรมแก่สังคม โดยเงื่อนไขการดำเนินงานจะเริ่มใช้มาตรการบังคับผู้ถือครองรายใหญ่ที่มีเนื้อที่เกินกว่า 500 ไร่ขึ้นไป เบื้องต้นพื้นที่เป้าหมาย 34 จังหวัด 563 แปลง 540,351ไร่ ขณะนี้ส.ป.ก. ส่งรายละเอียดพื้นที่เป้าหมายกลับไปยังจังหวัด เพื่อตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ พร้อมร่างคำสั่งเสนอต่อพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อพิจารณาต่อไปด้วย