“บ้านปูเน็กซ์” จับมือ “ฮ้อปคาร์” จัดโครงการ “บ้านปูเน็กซ์ อีวี คาร์ แชริ่ง ฟอร์ แคริ่ง” สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ เดินทางปลอดภัยในช่วงโควิด-19 นำรถยนต์ไฟฟ้าให้ใช้ฟรี 3 เดือน พร้อมส่งมอบให้โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นแห่งแรก บ้านปูเน็กซ์ บริษัทลูกของบ้านปูฯ ในฐานะผู้ให้บริการด้านพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า นำศักยภาพและความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้ามาต่อยอด พร้อมผนึกความร่วมมือกับ “ฮ้อปคาร์” (HAUPCAR) ผู้ให้บริการแบ่งปันรถยนต์ (Car Sharing) ผ่านแอปพลิเคชัน จัดทำโครงการในชื่อ “บ้านปูเน็กซ์ อีวี คาร์ แชริ่ง ฟอร์ แคริ่ง” (BanpuNext EV Car Sharing for Caring) สนับสนุนให้บุคลากรทางการแพทย์เดินทางไปทำงานในสถานพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย นำรถยนต์ไฟฟ้า 50 คัน มาแบ่งปันให้ทีมแพทย์และพยาบาลได้ใช้ฟรี 3 เดือนนับตั้งแต่วันส่งมอบ โดยเริ่มส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นแห่งแรก และเตรียมส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยโควิดอื่นๆ ที่มีความต้องการใช้รถ โดยมีบริการพิเศษ อาทิ บริการรับ-ส่งรถแบบไร้สัมผัส (Contactless) ผ่านแอปพลิเคชัน พร้อมบริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคเพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน ซึงใช้บริการได้ง่ายผ่านแอปฯ HAUP โดยสามารถใช้บริการได้ทั้งรูปแบบรายสัปดาห์ หรือรายเดือน ทั้งนี้บริษัทฯ หวังว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งพลังที่ช่วยให้เหล่าบุคลากรทางการแพทย์เดินทางใน
ช่วงโควิด-19 ได้อย่างสะดวก และปลอดภัยไร้กังวล นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงวิกฤติโควิด-19 กลุ่มบ้านปูฯ ได้มีการติดตามการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด และยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือกับบุคลากรทางการแพทย์ และหน่วยงานผู้เสียสละ ที่ผ่านมากองทุนได้บริจาคไปแล้วประมาณ 200 ล้านบาท ทั้งนี้ บ้านปูเน็กซ์ ในฐานะบริษัทลูก ที่มีแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกัน จึงได้นำศักยภาพด้านต่างๆ ขององค์กรมาผสานเข้าด้วยกัน โดยนำความพร้อมของระบบนิเวศธุรกิจ (Business Ecosystem) ประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร รวมถึงการมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งอย่าง บริษัท ฟอมม์ คอร์ปอเรชั่น (FOMM Corporation) และฮ้อปคาร์ (HAUPCAR) มาต่อยอดเป็นโครงการเพื่อสังคม ภายใต้ชื่อ บ้านปูเน็กซ์ อีวี คาร์ แชริ่ง ฟอร์ แคริ่ง
โดยโครงการดังกล่าว เกิดขึ้นจากการเล็งเห็นถึงอุปสรรค และความกังวลเรื่องความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในสถานพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งบริษัทฯ ได้นำบริการ EV Car Sharing มาผสานกับบริการเช่ารถผ่านแอปพลิเคชันของ HAUP โดยผู้ใช้สามารถทำการจองรถ รับรถ และเริ่มต้นการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องติดต่อกับผู้คน ซึ่งสามารถตอบโจทย์การเดินทางที่ปลอดภัย สอดรับกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) โดยนำรถยนต์ไฟฟ้า FOMM จำนวน 50 คัน มาแบ่งปันให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ใช้ฟรี 3 เดือนนับตั้งแต่วันส่งมอบ โดยนอกจากโรงพยาบาลจุฬาฯ บริษัทฯ ยังนำรถไปให้บริการแก่ กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 รวมถึงโรงพยาบาลอื่นๆ ที่มีความต้องการด้วย โดยในช่วงการให้บริการฟรีนี้ บริษัทฯ ได้มอบหมายให้ HAUPCAR เป็นผู้ดูแลระบบการให้บริการทั้งหมด (Operator)
นายกฤษฏิ์ วิชัยวัฒนาพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ฮ้อปคาร์ จำกัด ในฐานะผู้ดูแลระบบการให้บริการภายใต้โครงการนี้ กล่าวว่า ความพิเศษของบริการแบ่งปันรถในครั้งนี้ นอกจากทีมแพทย์ และพยาบาลจะได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแล้ว โครงการดังกล่าวยังช่วยคลายความกังวลในเรื่องความสะอาด ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยบริการรับ-คืนรถแบบไร้สัมผัส (Contactless) สามารถจอง ปลดล็อครถ และขับได้เลยโดยไม่ต้องเจอผู้คน มีบริการทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคเพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน หรือผู้ใช้บริการสามารถแจ้งขอรับบริการทำความสะอาดเพิ่มเติมระหว่างการใช้รถได้ โดยแจ้งขอรับบริการล่วงหน้า 48 ชั่วโมงที่ไลน์ @haupcar หรือโทร. 02-080-3960 โดยมีจุดบริการรับ และส่งรถคืน ณ โรงพยาบาลทั้ง 3 แห่ง อีกทั้งการใช้รถยนต์ไฟฟ้ายังเป็นการช่วยลดมลภาวะบนท้องถนน และช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย
บุคลากรทางการแพทย์สามารถสมัคร และเรียกใช้บริการ EV Car Sharing for Caring ผ่านแอปฯ HAUP ด้วย 7 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
1.สมัครใช้บริการผ่านแอปฯ HAUP โดยการกรอกข้อมูล พร้อมแสดงเอกสารสำคัญด้วยการถ่ายรูป ได้แก่ บัตรประจำตัวบุคลากรทางการแพทย์ หรือพยาบาล บัตรประชาชน และใบขับขี่
2.ระบบส่งข้อความอนุมัติการลงทะเบียน และแจ้งสิทธิ์การใช้งานผ่านแอปฯ และข้อความทางโทรศัพท์ภายใน 24 ชั่วโมง
3.ผู้ใช้บริการดำเนินการจองรถล่วงหน้าก่อนการใช้งานจริง 48 ชั่วโมง พร้อมระบุรูปแบบการใช้บริการ คือ แบบรายสัปดาห์ หรือแบบรายเดือน และวันที่ในการรับ-คืนรถ
4.ระบบส่งข้อความอนุมัติให้ใช้งานผ่านระบบแจ้งเตือนจากแอปฯ และข้อความทางโทรศัพท์
5.ฝ่ายปฏิบัติการดำเนินการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ และเช็คปริมาณไฟฟ้า ณ จุดจอดในโรงพยาบาล ก่อนการใช้งาน
6.ผู้ใช้บริการตรวจสอบปริมาณไฟฟ้า และชาร์จไฟฟ้าให้อยู่ในระดับที่ห้ามต่ำกว่าขีดสุดท้ายของสัญญานแจ้งระดับไฟฟ้า (สามารถชาร์จด้วยไฟฟ้าของที่พักอาศัยได้)
7.ผู้ใช้บริการส่งรถคืนที่จุดจอดในโรงพยาบาล กดล็อกรถ และกดสิ้นสุดการใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน
“บริษัทฯ เล็งเห็นเทรนด์เศรษฐกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภคในอนาคต ที่พบว่าจะเริ่มก้าวเข้าสู่ธุรกิจและสังคมแบบแบ่งปัน รวมถึงพฤติกรรมการเดินทางใหม่ แบบ Social Distancing ที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตินี้ เราจึงเร่งพัฒนาบริการ EV Car Sharing สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินอย่างปลอดภัย รวมถึงยังเป็น
การผลักดันการใช้รถยนต์พลังงานสะอาด เพื่อร่วมกันลดมลภาวะอีกด้วย” นางสมฤดี กล่าว