นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลาง หลังคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติเห็นชอบให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้าสู่การบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้คำสั่งศาลฯโดยการยื่นขอฟื้นฟูกิจการจะดำเนินการทั้งศาลฯและศาลฯสหรัฐ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) เมื่อวันที่ 18 พ.ค.63 ขณะเดียวกันสิ่งแรกที่ต้องดำเนินการคือภายในสัปดาห์นี้ต้องได้รายชื่อ 15 บุคคลที่จะเข้ามาบริหารแผนฟื้นฟู โดยคาดว่าจะเสนอรายชื่อ ให้ ครม.พิจารณาภายในสัปดาห์หน้า
นายศักดิ์สยาม กล่าวยืนยันว่า แนวทางนี้เป็นแนวทางที่ดีที่สุด หากปล่อยให้การบินไทยล้มละลายก็จะไม่เป็นผลดีต่อการบินไทย เพราะจะถูกพิทักษ์ทรัพย์ ไม่สามารถทำการบินได้ ประกอบกิจการไม่ได้ ทำให้ทรัพย์สินถูกอายัดขายทอดตลาด พนักงานตกงานและถูกลอยแพ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้การบินไทย ต้องยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการทั้งศาลในไทย และศาลในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งเสนอตัวเองเป็นผู้จัดทำแผนต่อศาล และตั้งคณะทำงานเพื่อเจรจากับเจ้าหนี้ รวมถึงตรวจสอบบัญชีลูกหนี้ ซึ่งเมื่อศาลรับคำร้อง บริษัทฯ จะได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 90/12 พ.ร.บ.ล้มละลาย ให้อยู่ในสภาวะพักชำระหนี้ ทำให้สามารถหยุดจำนวนหนี้สินที่จะเพิ่มขึ้นในส่วนของดอกเบี้ยได้ จากนั้นจะต้องเจรจากับเจ้าหนี้ ทั้งในและนอกประเทศ เพื่อให้เจ้าหนี้เห็นว่าแผนฯจะทำให้บริษัทกลับมาแข็งแรงต่อไปได้
สำหรับการคัดเลือกบุคคลประมาณ 15 คนที่จะมาดำเนินการจัดทำแผน มาดูแลหน่วยต่างๆของการบินไทย ต้องเป็นบุคคลที่สามารถ มีประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรมการบิน มีความเป็นมืออาชีพ ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ซื่อสัตย์ สุจริต มีผลงานทำงานได้จริงและปราศจากการแทรกแซงซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นหัวใจในการที่จะทำให้การบินไทยฟื้นฟูขึ้นมาได้ คาดว่าจะได้รายชื่อภายในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีเห็นชอบ เร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่ากรณีที่สังคมได้ตั้งคำถามว่ากรณีที่การบินไทยเมื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟูแล้วอะไรจะเกิดขึ้น ขอตอบว่าสามารถยังดำเนินกิจการได้อยู่ แต่จะดำเนินการภายใต้แผนฟื้นฟูที่ศาลพิจารณาและอยู่ภายใต้การกำกับของผู้ที่ศาลได้แต่งตั้งในการดำเนินการ ส่วนบอร์ดการบินไทย จะยังมีอำนาจในการบริหารอยู่ และการบินไทยจะยังเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ จนกว่าจะมีการปรับลดหุ้นกว่า 50% ก็จะหลุดจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ในเรื่องของการพิจารณาที่กระทรวงคมนาคมให้ความเห็นในการเข้าสู่แผนฟื้นฟู โดยยื่นต่อศาลนั้น กระทรวงคมนาคมได้ดูจากตัวแบบการฟื้นกิจการของสายการบินที่ได้ดำเนินกิจการในโลกที่ประสบปัญหาในอดีต เช่น การฟื้นฟูกิจการของสายการบินเจเปนแอร์ไลน์ ในระยะเวลา 14 เดือน จากนั้นกลับมามีรายได้ปีละ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ กรุ๊ป ใช้ระยะเวลาเพียงสามปีในการฟื้นตัว
“แต่สิ่งสำคัญคือการบินไทยจะต้องมีการเอ็กซเรย์ว่ามีอะไรที่ดำเนินการที่ไม่ถูกต้องและทำให้มีต้นทุนที่สูงไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร ที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้กระทรวงคมนาคมจะเข้าไปดูในเรื่องนี้ และจะไล่ดูว่าทำอะไรมาถึงเกิดปัญหานี้ขึ้นมา วันนี้เราต้องหันหน้ามาร่วมกันทำงาน เพื่อที่จะช่วยฟื้นฟูกิจการการบินไทย เราไม่ได้ที่จะต้องการทำลายการบินไทย เราต้องการที่จะทำให้การบินไทยฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงอีกครั้งหนึ่งส่วนปัญหาอีกเรื่องคือพนักงานหลังจากที่ได้มีการหารือร่วมกับปลัดกระทรวงคมนาคม ว่าหลังจากนี้จะต้องมีการหารือกับทางสหภาพการบินไทย เพื่อที่จะหาทางออกที่อยู่ในสถานการณ์จริงและสามารถปฏิบัติได้เพื่อที่จะดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพนักงาน 2 หมื่นกว่าคน แต่จะทำลักษณะไหนก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการให้เกิดความเข้าใจด้วยกัน กระทรวงคมนาคมตัดสินใจทำเรื่องนี้เสนอ ครม.โดยมีตัวแบบและผลการวิเคราะห์”นายศักดิ์สยาม กล่าว