บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ส่งมอบเครื่องศูนย์กลางเฝ้าติดตามการทำงานของหัวใจและสัญญาณชีพ (Central Monitor) 1 เครื่อง และเครื่องติดตามสัญญาณชีพชนิดข้างเตียง (Bedside Monitor) 10 เครื่องแก่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำมาใช้ในห้องดูแลผู้ป่วยหนัก หรือ ไอซียู โดยการส่งมอบครั้งนี้สืบเนื่องจากที่กลุ่มบริษัทกัลฟ์ได้มอบเงินสนับสนุนจำนวนเงิน 5 ล้านบาทแก่ทางโรงพยาบาลฯ เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าว เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
นายสาริศ รัตนาวะดี ในนามตัวแทนนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มบริษัทกัลฟ์ได้ช่วยเหลือและทำโครงการเกี่ยวกับโควิด-19 อย่างรอบด้านรวมกว่า 50 ล้านบาท ทางบริษัทฯ จึงเข้ามาช่วยสนับสนุนการจัดซื้อเครื่องวัดสัญญาณชีพ และยินดีที่จะช่วยเหลือโรงพยาบาลต่อไปในอนาคต ทั้งนี้กลุ่มบริษัทกัลฟ์ต้องขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นไปในทางที่ดีขึ้น
ด้านพล.ต.ท. นพ.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า เครื่องวัดสัญญาณชีพนี้เป็นเครื่องมือแพทย์สำคัญที่ใช้กับผู้ป่วยหนัก โดยต้องใช้ควบคู่ไปกับเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งพยาบาลจะวิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องศูนย์กลางเฝ้าติดตามการทำงานของหัวใจและสัญญาณชีพ (Central Monitor) ที่สามารถอ่านความดัน ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ของคนไข้แต่ละเตียงได้ทันที โดยที่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปหาคนไข้ในห้อง ถือเป็นเครื่องมือที่ประโยชน์และจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ป่วยหนัก ที่ไม่ใช่ผู้ป่วยโควิด-19 เพียงอย่างเดียว
นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 กลุ่มบริษัทกัลฟ์ได้เข้าไปช่วยเหลือในหลายภาคส่วน อาทิ บริจาคเงินและอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร สถาบันโรคทรวงอก โรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลพุทธชินราช มอบเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อแก่โรงพยาบาลขนาดเล็กในจังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา มอบหน้ากากทางการแพทย์ KN95 รวม 100,000 ชิ้น ให้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลอื่นๆ ที่ขาดแคลน บริจาคหน้ากากผ้าแก่ชุดปฏิบัติการคัดกรองผู้ป่วยระดับตำบล ในพื้นที่ 10 จังหวัด และ อสม. รวมถึงดำเนินการมอบข้าวกล่อง 150,000 กล่อง ให้กับชุมชนแออัดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร อีกทั้งร่วมกับ กฟผ. มอบถุงยังชีพแก่ชุมชนในพื้นที่ จ.นนทบุรี นอกจากนี้ ยังขยายความช่วยเหลือไปยังช้างไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านการบริจาคให้แก่โครงการโอบช้าง