นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในวันนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 3 ราย โดย 2 รายติดเชื้อจากการไปสถานที่ชุมชน ซึ่งมีจำนวนน้อยก็จริงแต่เราไม่อยากเห็นตัวเลขที่มากกว่านี้ จนถึงขั้นควบคุมไม่ได้ เพราะฉะนั้นตัวเลขหลักเดียวหรือตัวเลขสองหลัก เรายังสามารถจัดการควบคุมได้ดี ซึ่งอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ดังนั้นสิ่งที่ตนอยากจะย้ำในเรื่องการเดินทางมาจากต่างประเทศเรามีมาตรฐานดีระดับหนึ่ง เพราะฉะนั้นการติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศ ถ้าประเทศต้นทางมีการคัดกรองอย่างเข้มข้นก็จะเป็นเรื่องที่ดี ในส่วนการติดเชื้อในชุมชน ก็ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคน เราทุกคนต้องการ์ดไม่ตก ซึ่งจะยินดีมากถ้าสามารถเปิดกิจการในระยะที่ 2 ได้ต่อไปและสามารถที่จะเปิดกิจกรรมในระยะที่ 3 และระยะที่ 4 ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้วางแผนไว้ทั้งนี้ประชาชนต้องร่วมมือกันผู้ประกอบการที่ได้รับการผ่อนปรนก็ต้องเข้มข้นจะได้ผ่านโควิด-19 ไปด้วยกัน

เมื่อถามว่ามีผู้ติดเชื้อ 1 ราย อายุ 72 ปี ในวันนี้ มีการติดเชื้อโดยพบว่ามีการเกี่ยวข้องกับร้านตัดผมโดยขณะนี้มีการสอบสวนโรคพบหรือไม่ว่ามีผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับร้านตัดผมกี่คน นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า เรื่องสอบสวนโรคต้องใช้เวลาเบื้องต้น จากการสอบประวัติผู้ป่วย ทาร์มไลน์ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นการหาหมอที่โรงพยาบาลเพื่อที่จะทำการCT Scan หรือการไปที่ร้านตัดผมเพื่อที่จะตัดผม   จะมีผู้สัมผัสมากกว่านี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความจำของผู้ป่วย ซึ่งคงต้องดูว่าทีมสอบสวนโรคได้ข้อมูลเบื้องต้นแล้วได้ลงไปพื้นที่โรงพยาบาล และผู้ป่วยไปห้วงเวลาใด สัมผัสใกล้ชิดใครบ้าง ขณะเดียวกันร้านตัดผม ในห้วงเวลาดังกล่าวนอกจากช่างตัดผมแล้ว ก็ไม่ควรจะมีคนไปรอที่ร้าน หรืออาจจะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมอื่นๆที่เขาอาจจะยังจำไม่ได้ในช่วงแรกหรือคนที่อยู่ในบ้านก็ต้องไปดูว่าผู้สัมผัสร่วมบ้านมีใครบ้างที่มีโอกาสรับเชื้อจากผู้ป่วยรายนี้ ทั้งนี้ถ้าหากว่าร้านตัดผมหรือโรงพยาบาลที่ได้ระบุไว้มีการลงระบบ"ไทยชนะ" ถ้าผู้ป่วยมีการเช็คอินที่โรงพยาบาลหรือที่ร้านตัดผมเราก็จะพบข้อมูลของเขาโดยสามารถใช้ประโยชน์ว่าใครบ้างที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในห้วงเวลาที่เขาไปทำภารกิจและจะนำไปสู่การเชิญคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจ

นพ.อนุพงศ์ กล่าวเพิ่มเติม ขณะที่ทามไลน์ผู้ติดเชื้ออีกรายอายุ 42ปี เป็นชาวเยอรมัน มีประวัติเดินทางไปจ.ชัยภูมิ และพบว่าไปห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ที่เพิ่งมีผ่อนปรนมาไม่นานก่อน โดยอาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับกิจการที่ได้มีการผ่อนปรนไปแล้วก็ได้ อาจจะติดเชื้อจากคนที่บ้านก็ได้ คงเร็วเกินไปที่จะตัดสิน ทั้งนี้2 รายที่ปรากฏตัวที่โรงพยาบาลอาจจะมีผู้ป่วยรายอื่นที่ยังไม่มาที่โรงพยาบาลก็ต้องดูกันต่อไป ถ้าเป็นกลุ่มก้อนที่ชัดเจนแปลว่าระลอกที่ 2อาจจะมาแล้วก็ต้องมีมาตรการที่เข้มข้นมากกว่านี้ในเรื่องของการคัดกรองเฝ้าระวังควบคุมโรค ส่วนจะถึงขั้นต้องหยุดกิจกรรมบางอย่างหรือไม่คงต้องดูข้อมูลก่อน  ว่าอยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้หรือไม่ ถ้าควบคุมได้ก็จะไม่มีการปิดกิจการ โดยทุกคนต้องช่วยกันเพื่อที่จะทำให้ยังสามารถที่จะเปิดกิจการต่อได้และปลอดภัยจากโรค