พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่อิเกีย บางนา ว่า จากการที่รัฐบาลได้มีการผ่อนปรน สถานประกอบกิจการต่าง ๆ อาทิ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านตัดผม ส่งผลให้ประชาชนได้รับการผ่อนคลายในการใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าที่มีประชาชนใช้บริการ ต้องมีการเฝ้าระวังและ จัดระเบียบอย่างเข้มข้น ซึ่งการลงพื้นที่อิเกีย บางนาในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเน้นย้ำให้ประชาชนใส่ใจสุขอนามัยตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้าน พบปะพูดคุยกับผู้อื่น หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งต้องเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 – 2 เมตร หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ และมีการวางแผนล่วงหน้าเพื่อใช้เวลานอกบ้านให้น้อยที่สุด
“ทั้งนี้ อิเกียได้มีการจัดการตามคำแนะนำด้านการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข โดยมี จุดคัดกรองด้วยการวัดอุณหภูมิร่างกาย จัดให้มีแอลกอฮอล์เจลล้างมือบริการตามจุดต่างๆ ทั่วสโตร์ และเว้นระยะห่าง แต่เนื่องจากมีประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก กรมอนามัย จึงขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการคุมเข้มให้จำกัดจำนวนลูกค้าที่มาเลือกสินค้า โดยใช้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” บันทึกข้อมูลการเข้า – ออก เพื่อลดความหนาแน่นและความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด 19 นอกจากนี้ สำหรับร้านอาหารในอิเกียที่เปิดให้บริการนั่งกินในร้านต้องปฏิบัติตามมาตรการของร้านอาหาร ซึ่งหลักสำคัญต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคม 1 - 2 เมตร และเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณพื้นผิวที่มีการจับหรือสัมผัสบ่อยครั้ง เช่น บันไดเลื่อน ลิฟต์ และห้องน้ำ เพราะถึงแม้ว่าขณะนี้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทยจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังป้องกันตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดต่อไป” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ระยะที่ 2 ในวันแรก คือเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17พ.ค. และอนุญาตให้ห้างเปิดบริการได้ ปรากฎว่ามีภาพผู้คนแออัด เบียดเสียด ที่ห้างอิเกีย บางนา จำนวนมาก เป็นเหตุให้กรมอนามัยต้องลงพื้นที่ ตรวจสภาพการให้บริการห้างฯดังกล่าว