นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานการแก้ไขปัญหา บริษัทการบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทการบินไทย กับพลอากาศเอก ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ประธานบริษัทการบินไทย ซึ่งคาดว่าจะมีผลทันที
สาเหตุการลาออก เนื่องติดกฎหมายของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งนายไพรินทร์ ยังพ้นจากตำแหน่ง รมช.คมนาคม ไม่ถึง 2 ปี ซึ่งไม่สามารถไปนั่งเป็นกรรมการในบริษัทเอกชนได้ นอกจากนี้สมัยที่นายไพรินทร์ เป็น รมช.คมนาคม ได้กำกับดูแลบริษัทการบินไทย จึงเกรงว่าการเป็นกรรมการบริษัทการบินไทยในครั้งนี้จะมีผลประโยชน์ที่ขัดแย้งได้ จึงได้ขอลาออกจากการเป็นกรรมการ เพื่อไม่ให้การฟื้นฟูบริษัทการบินไทยมีปัญหา
นายประภาศ กล่าวว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องตั้งกรรมการใหม่แทนนายไพรินทร์ เพราะตอนนี้บริษัทการบินไทยเป็นบริษัทเอกชนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งระเบียบของคณะกรรมการกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กำหนดไว้บริษัทต้องมีกรรมการไม่น้อยกว่า 5 คน ซึ่งตอนนี้บริษัทการบินไทยมีกรรมการเกินกว่าที่ ก.ล.ต. กำหนด
"การลาออกของนายไพรินทร์ ไม่มีผลกระทบกับแผนฟื้นฟูการบินไทยที่อยู่ในกระบวนการของศาลล้มละลายกลางและมีชื่อของนายไพรินทร์ อยู่ในผู้จัดทำแผนฟื้นฟูด้วย เพราะรายชื่อคนทำแผนฟื้นฟูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาจนกว่าศาลจะมีคำสั่งอนุมัติให้ทำแผนฟื้นฟู และการลาออกของนายไพรินทร์ ไม่ได้มีปัญหาขัดแย้ง เป็นเรื่องปัญหาของข้อกฎหมายของ ป,ป.ช. เท่านั้น" นายประภาศ กล่าว
นายประภาศ กล่าวว่า การจะตั้งกรรมการบริษัทการบินไทยเพิ่ม หลังจากที่เป็นบริษัทเอกชนแล้วทำได้ง่าย สามารถแต่งตั้งรายงานกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ทันที ต่างจากที่เป็นรัฐวิสาหกิจที่ต้องมีการสรรหาและต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ซึ่งใช้เวลานาน ดังนั้นการลาออกของนายไพรินทร์ จึงไม่กระทบกับการดำเนินการฟื้นฟูบริษัทการบินไทย หากบริษัท หรือ ศาลเห็นว่า ต้องมีกรรมการ หรือ ผู้ทำแผนเพิ่ม ก็สามารถเสนอชื่อคนที่เหมาะสมเข้าไปทำงานได้ทันที