พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการเสนอผ่อนคลายมาตรการป้องกันในระยะที่ 3 ส่วนใหญ่เป็นกิจกรรม/กิจการที่มีความเสี่ยงที่จะแพร่ระบาดอยู่ในเกณฑ์สูง แต่เราต้องยอมเพื่อให้เกิดการประกอบอาชีพ ประชาชนดำรงชีวิตมีความสะดวกสบายขึ้น เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับเวลาเคอร์ฟิวจะปรับลดเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนประกอบอาชีพได้สะดวกมากขึ้น
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีข้อเสนออยากให้ปรับลดเป็น 23.00-03.00น.พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ถือเป็นตัวเลือกหนึ่ง ทั้งนี้ จะมีการเสนอศบค.พิจารณาปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดห้างสรรพสินค้าใหม่ด้วย ทั้งหมดเป็นการแก้ปัญหาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยกิจกรรมทั้งหมดเราชั่งน้ำหนักอย่างดี โดยเฉพาะความปลอดภัยด้านสาธารณสุข แต่ผ่อนคลายกิจกรรม/กิจการระยะที่ 3 อย่างไรบ้างนั้น ขอให้รอผลที่ประชุมศบค
พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการเข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ภายหลังประชุมศบค.ชุดเล็ก เป็นการหารือแต่ขอเข้าใจก่อนว่าเราพยายามผ่อนคลายในส่วนที่มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นขอความร่วมมือประชาชนและผู้ประกอบการทุกแขนง เคร่งครัดมาตรการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ การรักษาระยะห่าง เพราะเราไม่อยากถอยหลังกลับไป
"และที่เราต้องหารือกันต่อไปคือ หลังจากวันที่ 1 ก.ค.ที่จะสิ้นสุดการขยายการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะเป็นการเปิดประเทศมากขึ้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะทำช่วง 1 เดือนต่อจากนี้ต้องมาคุยกันเพื่อเตรียมพร้อมเมื่อจะไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือเมื่อจะเปิดประเทศ ดังนั้น จะเสนอตั้งคณะกรรมการขึ้นมารองรับศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะพิจารณาว่าจะนำกฎหมายใดมาใช้แทนได้ เตรียมการรองรับสถานการณ์โควิดในระยะยาวที่ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยการประชุมศบค.ผมจะเสนอนายกฯเพื่อขอหลักการไว้ก่อน แล้วจะไปดูในรายละเอียดว่าคณะกรรมการมีใครบ้าง แต่ต้องมีแน่นอน เพราะไม่อย่างนั้นเมื่อถึงวันที่ 1 ก.ค.จะเกิดความโกลาหล เพราะต้องเตรียมการในเรื่องต่างๆ"