นิพนธ์ - สรรเพชญ เดินหน้าต่อเนื่อง ช่วย ปชช.ชุมชนสงขลา สู้ภัยโควิด-19 หลัง แจกไปแล้วกว่า 7 หมื่นถุงยังชีพทั้งภาคใต้และภาคเหนือ
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.2) ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในชุมชนจังหวัดสงขลา ที่ประสบความเดือดร้อนเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า2019(COVID-19) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ของโรคระบาดโควิดยังไม่พ้นวิกฤติ โดยได้ร่วมกับนายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้ช่วยดำเนินการนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภานายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ นายกเทศบาลพะวง กำนันและผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่เพื่อมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนจำนวน 2,000 ชุด ณ วัดน้ำกระจาย อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา(ชุมชนบ้านน้ำกระจาย1,000 และชุมชนโรงยากตกอีก 1,000 ชุด)
รมช.มท.กล่าวว่า "ตนขอถือโอกาสนี้มาเยี่ยมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ในช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด-19 ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า 3 เดือน ที่เราประสบปัญหากับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งพี่น้องประชาชน มีความยากลำบากในการใช้ชีวิต แม้รัฐบาลจะมีการช่วยเหลือเยียวยาในหลายๆเรื่องไปแล้วก็ตาม รวมถึงกลุ่มเกษตรกร รัฐบาลก็พยามมาดูแลพี่น้องเกษตรกรให้ได้อย่างทั่วถึง แต่อย่างไรก็ตาม เราต่างก็ทราบกันดีว่าวิกฤตการณ์ครั้งนี้มีความรุนแรงและส่งผลกระทบอย่างมากต่อพี่น้องคนไทยทุกคน และกระทบไปทั้งโลก ตนจึงร่วมกับกลุ่มภาคเอกชน กลุ่มธุรกิจที่มีความใกล้ชิดกันและมีกำลังทรัพย์ ได้ร่วมกันจัดหาสิ่งของเพื่อนำมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในยามเดือร้อนนี้ ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนับแต่เกิดวิกฤต ในส่วนของถุงยังชีพนี้ ได้แจกจ่ายไปยังพี่น้องภาคใต้ไปแล้วจำนวนกว่า 55,000 ชุด เมื่อสัปดาห์ก่อนก็ได้แจกจ่ายไปยังพี่น้องชาวภาคเหนืออีกกว่า 7,000 ชุด นอกจากนี้ กำลังสำรวจและจะแจกจ่ายถุงยังชีพให้พี่น้องชาวอีสานอีกในปลายสัปดาห์นี้ นี่แสดงให้เห็นถึงน้ำใจของคนไทยอย่างแท้จริง ที่แม้ยามทุกข์ยากเราก็ไม่ทอดทิ้งกัน จึงต้องขอบคุณบริษัท โชติวัฒน์อุตสาหกรรมการผลิต จำกัด ที่สนับสนุนปลากระป๋อง ขอบคุณบริษัท สมิหลา โคลด์ สโตเรจ จำกัด ที่สนับสนุนข้าวสาร รวมทั้งภาคเอกชนอื่นๆที่ร่วมด้วยช่วยกันในครั้งนี้ โดยเฉพาะคุณสรรเพชญและทีมงาน ที่ดำเนินการเรื่องนี้มาโดยตลอด ทั้งทำอาหารกล่องพร้อมรับประทานและแจกจ่ายถุงยังชีพให้แก่พี่น้องชาวสงขลา ทราบว่าครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 45 แล้ว"
นายนิพนธ์ มท.2 ยังกล่าวอีกว่า " ในความสำเร็จของการฝ่าวิกฤตครั้งนี้ ต้องขอบคุณดังๆไปยัง เจ้าหน้าที่อสม.ที่เหนื่อยที่สุดในช่วงที่เกิดวิกฤติในบ้านเรา เป็นกำลังสำคัญของรัฐบาล รวมทั้ง แพทย์ พยาบาล ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ที่ทุ่มเทเสียสละในการปฏิบัติภารกิจเพื่อทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และหวังว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตช่วงนี้ไปด้วยกัน"