เภสัชกรหญิงวีระมล มหาตมวดี ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม(อภ.) กล่าวว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ความต้องการใช้แอลกอฮอล์เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดภาวะแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผลและฆ่าเชื้อโรคมีไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ต้องรักษาด้วยการล้างไตทางช่องท้อง มีความจำเป็นต้องใช้แอลกอฮอล์ในการฆ่าเชื้อโรคในช่วงที่ผู้ป่วยต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำยาล้างไตซึ่งผู้ป่วยตัองดำเนินการเปลี่ยนถ่ายด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องทุกวัน ทุกๆ4-6 ชั่วโมง ซึ่งหากไม่มีแอลกอฮอล์หรือมีแอลกอฮอล์ที่ไม่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคทำให้มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโรคและอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ในการนี้องค์การฯจึงได้สนับสนุนแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อเข้มข้น 70 เปอร์เซ็นต์ขนาด 450 ml จำนวน 10,000 ขวด ให้กับสมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปจัดสรรและให้บริษัทไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่นดำเนินการจัดส่งโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ส่งให้แก่ผู้ป่วยตามระดับสภาพของความจำเป็นของผู้ป่วยแต่ละรายต่อไป
ผู้ช่วยผู้อำนวยการ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากนโยบาย PD FIRST POLICY ในการล้างไตช่องท้องเป็นทางเลือกแรกในการรักษาผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย โดยใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบ 2551 โดยจัดส่งน้ำยาล้างไตทางช่องท้องถึงบ้านผู้ป่วยทุกหลัง ปัจจุบันมีผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้อง (CAPD) ในระบบ มากกว่า 24,000 คน ซึ่งองค์การฯเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อน้ำยาล้างไตจากบริษัทผู้จำหน่าย 2 บริษัท จำนวนปีละประมาณ 30 ล้านถุงต่อปี คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3,855 ล้านบาท ในการดำเนินการนี้ในปี 2562 สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายให้รัฐได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยมีบริษัทไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด เป็นผู้จัดส่งน้ำยาล้างไตถึงบ้านผู้ป่วยทุกหลัง รวมถึงหน่วยบริการด้วย การดำเนินงานดังกล่าวทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถดำเนินชีวิตได้ปกติ
ด้านนายธนพลธ์ ดอกแก้ว นายกสมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ขอขอบคุณองค์การเภสัชกรรมและบริษัทไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น ที่สนับสนุนการดำเนินการในครั้งนี้ สำหรับผู้ป่วยที่ต้องล้างไตผ่านช่องท้องมากกว่า 24,000 คน ดังนั้นหากหน่วยงาน หรือองค์กรไหนประสงค์จะบริจาคแอลกอฮอล์ เพิ่มเติมอีกทางสมาคมฯยินดี โดยติดต่อที่ตนเอง โทรศัพท์หมายเลข 083 833 3096 เพื่อจัดส่งให้กับผู้ป่วยเป็นการเพิ่มเติม
นายกสมาคมเพื่อนโรคไต กล่าวต่อไปว่า สาเหตุของโรคไตวายเรื้อรังเกิดจาก เบาหวาน ความดัน การใช้ยา การบริโภค อาหารเค็มจัด หวานจัด จากเครื่องปรุงรสชาดอาหารต่างๆ โดยเฉพาะจากขนมขบเคี้ยวซึ่งเด็กๆนิยมกินกันนั้น จะมี รสเค็มจาก “โซเดียม” ซึ่งปกติเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการในปริมาณ 1,500 มิลลิกรัม/วัน แต่ต้องได้รับไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน หรือเท่ากับเกลือ 1 ช้อนชา ซึ่งเป็นปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากหรือน้อยเกินไป ดังนั้นก่อนกินควรอ่านฉลากโภชนาการ บนซองขนม โดยเลือกซื้อชนิดที่มีโซเดียมต่ำ และไม่ควรทานบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินความจำเป็น ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายสูง