นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้อนุมัติการปฏิรูปขั้นตอนและระยะเวลาในการเข้าร่วมโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP)ในโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อผลักดันให้ดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น จากเดิมกว่าจะผ่านขั้นตอนและเริ่มลงทุนได้ต้องใช้เวลาถึง 2 ปีทำให้แต่ละโครงการเกิดความล่าช้าเป็นอย่างมาก
ดังนั้นในแนวทางใหม่ที่ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมครม. จะมีกลไกการทำงานที่รวดเร็วขึ้น เป็นพีพีพีฟาสแทร็ค โดยรวมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการเข้าด้วยกัน เพื่อลดปัญหาการแบ่งกันตรวจสอบแล้วต้องส่งกันต่อไปมา คาดว่าจะช่วยทำให้แต่ละโครงการลดเวลาการดำเนินงานเหลือเพียง 9 เดือนเท่านั้น
ทั้งนี้ภายในวันที่ 6 พ.ย.นี้ จะมีการประชุมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว ซึ่งจะมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมด้วยเพื่อติดตามความคืบหน้าของแต่ละส่วนงาน และเมื่อดำเนินการปฏิรูปขั้นตอนแล้ว นายกรัฐมนตรีอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเข้ามาแก้ไขปัญหาอุปสรรคของโครงการต่างๆ เพราะเป็นอำนาจพิเศษที่จะใช้ในกรณีที่เกิดภาวะติดขัดที่ไม่สามารถแก้ไขได้จริงๆ
สำหรับโครงการพีพีพีในปี 59-60 มีโครงการ 8 โครงการ วงเงินรวม 347,000 ล้านบาท คือ โครงการรถไฟฟ้าสายชมพู (แคราย-มีนบุรี) รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางประอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี โรงงานขยะ อบจ.นนทบุรี และเทศบาลนครราชสีมา และการใช้ที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นอาคารศูนย์ธุรกิจพาณิชยนาวี