ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
กรมสุขภาพจิต เดินหน้าพัฒนาและปรับปรุงระบบบริการสุขภาพจิตเพื่อให้เหมาะสมและปลอดภัยบนฐานวิถีชีวิตใหม่ (New Normal in Mental Health Service)
08 มิ.ย. 2563

วันนี้ (8 มิถุนายน 2563) กรมสุขภาพจิต เล็งเห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากข้อจำกัดในการปรับตัวกับชีวิตวิถีใหม่ และการลดลงของผู้ป่วยจิตเวชที่มาใช้บริการในโรงพยาบาลในช่วงสี่เดือนแรก ปัจจัยดังกล่าวเป็นที่มาของการพัฒนารูปแบบการให้บริการดูแลสุขภาพจิตในวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์การคาดการณ์ที่อาจมีการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยจิตเวชอย่างมากในระยะถัดไป การลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรค และให้บริการด้านสุขภาพจิตแก่ประชาชนไทยอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการสำรวจจำนวนผู้เข้ารับบริการทางด้านจิตเวชทั้งในระบบผู้ป่วยใน-นอกของสถานบริการสังกัดกรมสุขภาพจิตจำนวน 20 แห่ง พบว่าผู้ป่วยที่มารับบริการแบบผู้ป่วยนอกของสถาบันและโรงพยาบาลจิตเวชในช่วงเดือนเมษายน (จำนวน 61,235 ราย) มีจำนวนลดลงจากเดือนมกราคม (จำนวน 88,923 ราย) หรือคิดเป็นร้อยละ 31 และจำนวนผู้ป่วยในของสถาบันและโรงพยาบาลจิตเวชช่วงเดือนเมษายน (จำนวน 10,319 ราย) มีจำนวนลดลงจากเดือนมกราคม (จำนวน 19,685 ราย) หรือคิดเป็นร้อยละ 47.6 ทั้งนี้กรมสุขภาพจิตได้ทำการคาดการณ์ว่าหลังจากในเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป อาจจะเกิดการที่จำนวนคนใช้บริการรายใหม่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมได้จากหลายปัจจัย จากความเครียดทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตมากกว่าเดิม จำนวนผู้ป่วยใช้บริการมากขึ้นจนอาจทำให้กระทบต่อคุณภาพและความปลอดภัยของผู้รับบริการ และจำนวนผู้ป่วยนอนรักษาในโรงพยาบาลอาจมากขึ้น จากการรักษาไม่ต่อเนื่องและขาดยา


นายแพทย์บุรินทร์ สุรอรุณสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการกองบริหารระบบบริการสุขภาพจิต กล่าวเพิ่มเติมว่า จากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต กรมสุขภาพจิตจึงได้ดำเนินการพัฒนาระบบเพื่อรองรับบริการสุขภาพจิตและจิตเวชสำหรับโรงพยาบาลในวิถีชีวิตรูปแบบใหม่นี้ โดยพัฒนาระบบต่างๆบนพื้นฐานเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ด้านบริการสุขภาพจิตอย่างสูงสุด เช่น การจัดระบบจองคิว/นัดหมายออนไลน์ คลินิกสังเกตอาการระบบทางเดินหายใจ การนัดหมายคนไข้ในลักษณะที่มีการเหลื่อมเวลา การรับบริการส่งยาทางไปรษณีย์หรือร้านขายยา รวมไปถึงการรับยาผ่านระบบ Drive thru เพื่อรักษาระยะห่างอีกด้วย นอกจากนั้นจะมีการเพิ่มเติมระบบติดตามดูแลต่อเนื่องด้านสุขภาพจิตและจิตเวชรูปแบบใหม่เพิ่มเติมอีก ได้แก่ การจัดทำระบบนัดติดตาม/Application การติดตามโดยตรงทางโทรศัพท์/VDO call (โปรแกรมโทรถามตามเยี่ยม) ระบบการรายงานตัวเอง (Self-report) ผ่าน Application/VDO call การเยี่ยมบ้านในรายกรณีที่จำเป็น/มีปัญหาซับซ้อนหรือเยี่ยมบ้านผ่านระบบ VDO call (VDO call visiting) การติดตามผ่านโรงพยาบาลเครือข่ายโดยระบบ Teleconference ให้ความรู้ในการป้องกัน ดูแลตนเอง สำหรับผู้ป่วยและญาติ (บูรณาการไปกับกิจกรรมบริการต่างๆ) การประเมินสุขภาพจิต Application โดยหากพบมีอาการผิดปกติหรือเกิดปัญหา สามารถติดต่อขอคำปรึกษากับโรงพยาบาลใกล้บ้าน และหากเกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลใกล้บ้าน ให้ขอคำปรึกษาผ่านโทรศัพท์ VDO Call Teleconference รวมถึงส่งต่อไปยังโรงพยาบาลจิตเวช ต่อไป


ท้ายนี้ กรมสุขภาพจิตจำเดินหน้าพัฒนากลไกในการบริการด้านการเยียวยาจิตใจเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้คลายความวิตกกังวล เครียด กลัว เศร้า เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับความช่วยเหลือทางด้านจิตใจอย่างใกล้ชิด ช่วยให้สามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจได้ดี และลดผลกระทบด้านสุขภาพจิตในระยะยาว ขณะเดียวกันหากรู้สึกหมดพลัง เครียดมากขึ้น ท่านสามารถใช้บริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมงเช่นเดิม

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...