นายทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. เปิดเผยว่า ในร่างพิจารณามาตรการผ่อนคลาย ระยะที่ 4 คาดจะเริ่มในวันที่ 15 มิ.ย.63 นี้ จะมีการผ่อนคลายกลุ่มที่ 4 หรือกิจการสีแดง เป็นกิจการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคในหลายพื้นที่ และการแพร่เชื้อในสถานที่อยู่ในเกณฑ์สูง และมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในเกณฑ์ต่ำ
1.โดยจะมีการผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถานบันการศึกษา
2.กิจการด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต
3.กิจการด้านการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพหรือสันทนาการ
โดยในกลุ่มแรกผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถานบันการศึกษา กิจการที่เริ่มเปิดได้คือโรงเรียนกวดวิชาและโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งไม่เกี่ยวกับโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่มีกำหนดเปิดในวันที่ 1 ก.ค. 63 นี้ รวมถึงการประชุมและสัมมนาของหน่วยงานต่างๆ ที่ก่อนหน้าที่ถูกสั่งห่าม ก็สามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติแล้ว
แต่ในขณะเดียวกัน มาตรการการเว้นระยะและการจัดหาพื้นที่โล่งที่ปลอดภัยยังคงสำคัญและต้องปฏิบัติอยู่
2.กิจการด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต ที่จะกลับมาเปิดได้มีภัตตาคาร ,ศูนย์อาหาร,โรงแรม,ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มทั่วไป ซึ่งไม่รวม ผับ,บาร์,คาราโอเกะ ส่วนเรื่องการบริโภคสุราและเครื่องดื่มให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด และงดการส่งเสริมการขาย เช่น มีการเชียร์เบียร์ที่ใกล้ชิดเสี่ยงการแพร่ระบาด ฉะนั้นอยากให้ดื่มแค่ไหนร้านและกลับบ้าน
ส่วนมาตรการการป้องกันก็มีตามเดิมคือการเว้นระยะ หมั่นล้างมือสวมแมส และการเพิ่มพื้นที่ รวมถึงการใช้บริการร้านเช็คอินผ่านไทยชนะ และยังงดการกินแบบบุพเฟ่ต์ ใช้สิ่งของร่วมกันอยู่
และรวมถึงกิจการรับเลี้ยงเด็กและผู้สูงอายุ ที่ก่อนหน้านี้มีแค่การดูแลผู้ที่ค้างอยู่ประจำเท่านั้น แต่สำหรับคนที่ไปกลับ ต้องสั่งงด แต่หลังจากนี้จะสามารถกลับมาเปิดได้แล้ว ซึ่งต้องเข้มในเรื่องของการเว้นระยะห่างให้สำหรับเด็ก อย่างน้อยคนละ 2 ตารางเมตร เพื่อความปลอดภัยรวมถึงผู้ดูแลต้องผ่านการอบรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยและควบคุมโรคด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง
ห้องประชุมโรงแรม ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า เปิดได้แล้ว โดยการประชุมอบรมสัมมนา ต้องคิดเป็นตารางเมตรต่อคน งานเลี้ยง จัด Event สินค้า หรือแข่งขันกีฬาที่ไม่มีคนดู ทำได้แล้ว แต่ต้องมีระยะห่าง ระยะนั่ง ระยะยืน 1 เมตร
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลอง จะได้รับการเปิด วันนี้ก็ต้องมีการกำกับดูแลเพราะเป็นที่นิยมของเด็กๆขนส่งสาธารณะ อาจจะให้นั่งติดกันได้ 2 ที่นั่งเว้น 1 ที่นั่ง
3.กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ หรือสันทนาการ
เรื่องของกองถ่าย เพิ่มจำนวนคนได้แล้ว รวมถึงการถ่ายทำโทรทัศน์ รายการโทรทัศน์ทั้งหลายได้สร้างนวัตกรรมอะไรต่างๆใหม่ๆขึ้นมา สิ่งต่างๆเหล่านี้จะเป็นตัวอย่างที่ดี โดยมีคนบอกให้ตนช่วยแนะนำด้วยว่ารายการทั้งหลายบางคนใส่ Face Shield อย่างเดียว แล้วยืนใกล้ชิดกัน อย่างนี้ก็บอกว่าไม่ควร เพราะ Face Shield อย่างเดียวไม่ช่วย แต่หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย ช่วยได้
กองถ่ายสามารถที่จะเพิ่มขนาดได้แล้ว ไม่เกิน 150 คน ผู้เข้าชมไม่เกิน 50 คน อันนี้เป็นรายละเอียดที่จะทำให้เราเห็นรายการต่างๆทำการถ่ายทำ แล้วก็มาให้พวกเราได้ชื่นชมกันในทางทีวี”
สถานประกอบการด้านสุขภาพ สปา ออนเซ็น อบตัวสมุนไพร อบไอน้ำ แบบรวมเปิดได้แล้ว แต่ยังยกเว้น คือ กิจการ “อาบอบนวด” โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการต่อรอบที่ 725 ตารางเมตรต่อคน
สนามเด็กเล่น สระน้ำ สวนน้ำ สระว่ายน้ำสาธารณะ เปิดได้แล้ว แต่ต้องมีการอบรม ดูแลตรวจตรา ให้คำแนะนำ แต่ว่าสวนสนุกอีกแบบหนึ่งที่ยังไม่ให้เล่น คือ “บ้านลูกบอล” ในห้างสรรพสินค้าจะเห็นมีโครงตาข่ายหรืออาจจะไม่ใช่เป็นในห้าง และตามต่างจังหวัดมีคนไปตั้งเป็นสวนสนุก แล้วก็ “บ้านลูกบอล” ที่มีลูกบอลกลมเล็ก เด็กกระโดดลงไปมีบอลเต็มตัวรอบๆตัวอันนี้ไม่ให้ เพราะสารคัดหลั่งทั้งหลายจะไปอยู่กับพื้นผิวของอุปกรณ์ต่างๆเหล่านั้น โดยเฉพาะลูกบอล
สนามกีฬาประเภทกลางแจ้ง โรงเรียนศิลปะการต่อสู้ โรงยิม แล้วก็สถานที่ออกกำลังกายเกือบทุกประเภท ตามกติกาสากลเพื่อการออกกำลังกาย เพื่อการฝึกซ้อม เพื่อการเรียนการสอน เล่นได้หมดทุกประเภทกีฬา แต่ถ้าจะมีการแข่งขัน ต้องไม่มีผู้ชม คือ ทำให้เขาเข้ามารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก แข่งได้เลย มีแต่คู่แข่ง ที่สำคัญไม่มีกิจกรรมอื่นมาร่วมด้วย คือ พวกกิจกรรมส่งเสริมการขาย นี่คือสิ่งหนึ่งที่จะได้ผ่อนคลายกัน
ทั้งหมดนี้คาดว่าจะเริ่มใช้ในวันที่ 15 มิ.ย.63 และยังเป็นเพียงฉบับร่าง ที่ประชุมอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งจะมีการแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 12 มิ.ย. 63 นี้ ส่วนเรื่องการทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว 15 วันก็เช่นกันลุ้นผลสรุปในวันศุกร์นี้