สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ สัมมนาออนไลน์ Post COVIC-19 ชีวิตวิถีใหม่ กับการจัดระเบียบและขับเคลื่อนสร้างความพร้อมกรุงเทพและเมืองหลักเพื่อการจัดงาน ผ่านรูปแบบการประชุมเสมือนจริงผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ กิจกรรมนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมพูดคุยเตรียมความพร้อมกับผู้ประกอบการไมซ์ทั่วประเทศ โดยมีผู้ลงทะเบียนร่วมงานสัมมนาออนไลน์มากกว่า 1,000 คน
นายอนุทิน กล่าวว่า ขอชื่นชมผู้ประกอบการไทยและทั่วโลกอดทนต่อสู้รับมือกับโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจไมซ์มาตลอด วันนี้ไทยประสบความสำเร็จควบคุมการแพร่ระบาดโควิดในประเทศได้อย่างดี จำนวนผู้ป่วยลดลงต่อเนื่อง จากการทำงานหนักและมาตรการทางสาธารณสุขควบคุมโรคอย่างได้ผล และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจน้อย สธ.จะดำเนินมาตรการต่อไปอย่างเข้มข้น เพื่อให้การจัดงานประชุมและนิทรรศการมีความปลอดภัย และก่อผลกระทบให้น้อยที่สุด รัฐบาลต่อสู้โควิดเต็มที่ ด้วยเชื่อว่า ประชาชนปลอดภัย ประเทศปลอดภัย จะเป็นที่สนใจจากต่างชาติว่า ไทยมีศักยภาพจัดการ ควบคุมการระบาดได้ เป็นประเทศปลอดเชื้อ สะอาด และทำให้ไทยเป็นประเทศเป้าหมายที่ทั่วโลกมาประชุม สัมมนา ท่องเที่ยว เราถอยหลังหนึ่งก้าว เพื่อเดินหน้า
“ เป้าหมายไม่มีคนติดเชื้อเลยในประเทศ ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ แต่หากมีการติดเชื้อที่ใด เราสามารถคัดกรองได้ทุกคน และส่งต่อรักษา ดูแล มาตรการจะผ่อนคลายไปเรื่อยๆ ถึงวันนี้การระบาดโควิดในประเทศ ไม่มีติดต่อกัน 15 วันแล้ว สธ.กับกระทรวงท่องเที่ยวฯ มีแนวคิดจับคู่กับประเทศที่มีความพร้อม ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ดี โดยทำเอ็มโอยูระหว่างประเทศกับประเทศ จัดทำข้อตกลงการเดินทางระหว่างประเทศทั้งสอง นี่คือ นิวนอร์มอล เราไม่สามารถเปิดประเทศเสรี เดินทางไปมาเหมือนอดีต เวลานี้ภาครัฐสนับสนุนการใช้วิถีชีวิตใหม่ และกระตุ้นการจัดประชุมภายในประเทศ ภายใต้การสนับสนุนของทีเส็บ ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ ส่วนธุรกิจที่พักที่มีการปรับปรุงหรือต่อเติมสถานที่ให้ปลอดภัยมากขึ้นสามารถหักภาษีนิติบุคคลได้หนึ่งเท่าครึ่ง หนุนจัดสัมมนาในประเทศ เพื่อให้เกิดการฟื้นตัวและหมุนเวียนเศรษฐกิจให้มากสุด อุตสาหกรรมไมซ์สำคัญมากทางเศรษฐกิจ ก่อรายได้ประเทศมหาศาล หลังโควิดคลี่คลาย สถานการณ์ท่องเที่ยวและประชุมในไทย จะใช้คำว่า “หัวกระไดไม่แห้ง” เราต้องมีการเตรียมพร้อม “ นายอนุทิน กล่าวว่า
นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลจะสนับสนุนให้หน่วยงานราชการจัดอบรม สัมมนา ดูงานนอกสถานที่ ในทุกภูมิภาคของไทย เพื่อกระจายรายได้ มีมาตรการภาษีกระตุ้นให้คนเที่ยวทั่วไทย รณรงค์เที่ยวในเมืองไทย เที่ยวเมืองรอง มากกว่าเที่ยวต่างประเทศ ตนมั่นใจผู้ประกอบการเอกชนก็ใช้วิธีนี้กระตุ้นเศรษฐกิจ
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม ทีเส็บ กล่าวว่า ปี 2562 อุตสาหกรรมไมซ์ทั้งในและตลาดประเทศ เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกว่า 5.5 แสนล้านบาท สร้างอัตราจ้างงานกว่า 3 แสนอัตรา จัดเก็บภาษีได้ 39,130 ล้านบาท แต่จากสถานการณ์โควิด ธุรกิจไมซ์มีการยกเลิกกว่า 30 งาน และเลื่อนไปอีกกว่า 100 งาน แผนการรองรับสถานการณ์โควิด ช่วงตอบสนอง เป็นการเยียวยา เตรียมความพร้อมจากนิวนอร์มอล รวมถึงจัดประชุมปลอดภัย ไร้โควิด สนับสนุนเงิน 3 หมื่นบาทต่อองค์กรใช้เทคโนโลยีใหม่จัดประชุม โดยทำงานร่วมกับ สธ. และ ศบค. เพื่อจัดทำคู่มือแนวปฏิบัติด้านสุขอนามัยสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เป็นแนวปฏิบัติสำหรับสถานที่จัดงานไมซ์ และสำหรับผู้จัดงานประชุม นิทรรศการ งานอีเวนท์ ซึ่งจะมีการคลายล็อคเร็วๆ นี้ อีกทั้งมีสำนักงานทีเส็บระดับภาคทำงานใน 4 ภูมิภาคของไทย ขณะนี้ผู้ประกอบการ ผู้จัดการ สถานที่จัดงานมีความพร้อมมาก จากการสอบถามโรงแรม ศูนย์ประชุม จากงานที่เลื่อนและเริ่มจองมีจำนวน 938 งาน ในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนนี้
“ โอกาสของธุรกิจไมซ์ มีสถานการณ์ของนิวนอร์มอล จะมีการสนับสนุนการใช้งานระบบการจัดงานออนไลน์ สมาร์ทไมซ์ นำนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่มาใช้จัดงาน ก้าวข้ามข้อจำกัดการเดินทางเข้าร่วมงาน เช่น การประชุมเสมือนจริง นอกจากนี้ ต้องสร้างมาตรฐานด้านสาธารณสุขและความมั่นใจผู้ร่วมงาน ผู้ใช้บริการ รวมถึงเมื่อต่างชาติเดินทางเข้ามาภายในประเทศไม่ได้ วันนี้การฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ต้องร่วมมือกันกระตุ้นจัดงานไมซ์ในประเทศ ใช้ประสบการณ์ท้องถิ่น อีกประเด็นที่เริ่มพูดถึงมาก เป็นการตลาดดูแลรายบุคคล และเจาะอุตสาหกรรมเป้าหมายมากขึ้น ปัจจุบันรัฐบาลผ่อนปรนระยะ 2 และระยะ 3 ให้จัดประชุมสัมมนาไม่เกิน 200 คน ส่วนงานแสดงสินค้าจัดในพื้นที่ไม่เกิน 2 หมื่นตารางเมตร เริ่มจากเมืองไมซ์ที่มีความพร้อม และในเร็วๆ นี้ อาจจะมีข่าวดีปลดล็อคอุตสาหกรรมไมซ์ครบวงจร ช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศ เราเตรียมความพร้อมการจัดงานในเมืองหลักเพิ่มเติม เช่น โคราช เพื่อไม่ให้งานกระจุกที่กรุงเทพฯ “ นางศุภวรรณ กล่าว
รอง ผอ.สายงานพัฒนาและนวัตกรรมฯ กล่าวต่อว่า ส่วนตลาดต่างประเทศ แม้ไม่มีการเดินทางเข้ามาในประเทศ แต่เน้นรักษาฐานลูกค้าเดิม เป็นลูกค้าในอาเซียน เจาะกลุ่มตลาดเป้าหมสาย จะทำโรดโชว์ร่วมกับทวิภาคี และมีแคมเปญการตลาดต่างประเทศ ทั้งประชุม นิทรรศการ และอีเว้นท์ ขณะนี้มีแผนดึงงานระดับโลก งานแสดงสินค้าที่มองไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน เราต้องงานให้ดี และดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามา นอกจากพบกัน ยังมีบริการออนไลน์ให้ด้วย ขณะที่ตลาดในประเทศก็เตรียมความพร้อม มาตรการด้านความปลอดภัยของสถานที่จัดงานทีเส็บ มีมาตรการเชิงรุกจะสนับสนุนผู้ประกอบการ สนับสนุนสถานที่จัดงาน กระตุ้นการจัดงานทั่วทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นการประชุมองค์กร ประชุมสัมมนาวิชาการ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล โดยจะมีเงินสนับสนุน จะอัดฉีดการแสดงสินค้าสู่ภูมิภาค ด้านเกษตรและอาหาร พัฒนามาตรฐานการจัดประชุมปลอดภัย อีกส่วนที่ไม่ลืมคือ การสร้างงานและอาชีพ ไมซ์ 5 ภาค สถาบันการศึกษา อาชีวะกว่า 100 แห่ง จะจัดงานจ้างงานทั่วประเทศ อีกทั้งใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยโควิด ติดตามผู้ร่วมประชุม และความหนาแน่นของคนที่มาร่วมงาน
นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์รวมสถานที่จัดประชุม สัมมนา ศูนย์จัดแสดงสินค้าจำนวนมาก หลังคลายล็อค หากมีการจัดงานไมซ์ ผู้ว่าฯ กทม. สั่งการให้ทุกสำนักงานเขตเข้าไปควบคุมและดูแลมาตรการทางสาธารณสุขเข้มข้น เราเตรียมพร้อมอยู่แล้ว และของบประมาณสนับสนุนการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร อีกทั้งมีการเตรียมความพร้อมสถานพยาบาลในสังกัด กทม. หากการคัดกรองผู้ร่วมกิจกรรมไมซ์แล้ว พบการติดเชื้อหรือมีกลุ่มเสี่ยง และการวางแผนเส้นทางเคลื่อนย้ายส่งต่อผู้ป่วยกรุงเทพมหานครมีความพร้อมเป็นมหานครจัดงานและการท่องเที่ยวในฐานะเจ้าบ้าน แขกมาเยือนต้องมั่นใจความปลอดภัย และมีความประทับใจในการเดินทางมากรุงเทพฯ การสร้างมาตรฐานต่างๆ จะสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ต่อไป
นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นได้เตรียมความพร้อมรับมือโควิดอย่างเข้มข้น โดยมีแผนจำลองสถานการณ์ความเสี่ยงโควิดถึง 4 สถานการณ์ อีกทั้งจังหวัดร่วมมือกับทีเส็บจัดตั้งคณะทำงานเพื่อประเมินความพร้อมของสถานประกอบการและผู้ประกอบการไมซ์ในมาตรการป้องกันสกัดกันเชื้อ รวมถึงส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการสัมมนา จังหวัดมีแผนจะจัดประชุมสัมมนาขอนแก่นเมืองมัดหมี่หัตถกรรมโลกในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนปีหน้าจะจัดประชุมด้านธรณีวิทยาเพื่อผลักดันขอนแก่นเป็นเมืองธรณีวิทยาระดับโลก วันนี้โรงแรมในจังหวัดขอนแก่น 182 โรง มี 152 โรงที่เปิดดำเนินการมาตลอดด้วยมาตรฐานทางด้านสาธารณสุข โดยวันที่ 1 ก.ค.นี้จะเปิดบริการทุกแห่ง ส่วนศูนย์ประชุมนานาชาติพร้อมเปิดบริการ มีไฟลท์บินไป-กลับ สะดวกสบายเรื่องการเดินทางอย่างปลอดภัยไร่โควิด
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงานกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ไทยไม่พบผู้ป่วยภายในประเทศ แต่ยังบอกไม่ได้ผู้ป่วยติดเชื้อเป็นศูนย์ กิจกรรมที่ต้องอาศัยคนต่างชาติร่วมประชุมจะมีผลต่อการแพร่เชื้อ ถือว่ายังเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ต้องใช้เวลาอีกระยะ แต่สามารถส่งเสริมการจัดการประชุมหรือการจัดงานในรูปแบบออนไลน์ การจัดงานประชุมมีมาตรการหลักๆ ทำความสะอาดสถานที่จัดงาน , ผู้แสดงและผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัย,ตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์เจลล้างมือ, การเว้นระยะห่าง และลดความแออัด นอกจากนี้ มีมาตรการเสริมผู้จัดงานแสดงสินค้า ต้องมีกระบวนการทำให้เกิดความปลอดภัย ลดความเสี่ยงแพร่เชื้อก่อนเริ่มงาน ระหว่างงาน จัดการลงทะเบียนเข้าร่วมงาน เพื่อติดตามตรวจสอบได้ ตั้งจุดคัดกรอง อย่างงานแสดงสินค้ามีคนเข้าร่วมงานต่อรอบจำนวนมาก ต้องมีสถานพยาบาลร่วมคัดกรองบุคคลเข้าร่วมงาน หากพบผู้ติดเชื้อมีห้องแยกผู้ป่วยออกจากพื้นที่สาธารณะ การจัดบูทที่เว้นนระยะห่างมากขึ้น และใช้เทคโนโลยีช่วยให้การนำเสนอสินค้าน่าสนใจมากขึ้น พรุ่งนี้ ศบค.จะประชุมเฟส 4 ขยายผ่อนคลายกิจกรรม จะมีเซอร์ไพรส์เยอะมาก ไมซ์เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้วิถีใหม่