นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายนาชิดะ คาซูยะ (Mr.Nashida Kazuya) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะและหารือโครงการจับคู่ท่องเที่ยวกับต่างประเทศที่บริหารจัดการสถานการณ์โควิด 19 ได้ดี หรือแทรเวล บับเบิล (Travel Bubble) ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้รับทราบและย้ำในมาตรการความปลอดภัยการดำเนินโครงการจับคู่ท่องเที่ยวกับต่างประเทศ หรือ Travel Bubble ต้องยึดหลักการการจำกัดกลุ่มที่จะเดินทาง เบื้องต้นจะเน้นกลุ่มนักธุรกิจโดยยังไม่เปิดกว้างให้นักท่องเที่ยว จะกำหนดระยะเวลาและจำกัดการเดินทาง มีบริษัทหรือหน่วยงานต้นสังกัดให้การรับรอง ควบคู่กับมาตรการตรวจสุขภาพก่อนเดินทาง (Fit to Fly) ตรวจทั้งก่อนและเมื่อมาถึงประเทศไทย ซึ่งในรายละเอียดนั้นทางกรมควบคุมโรคได้กำหนดเงื่อนไขต่างๆ ไว้แล้ว เหลือเพียงการเพิ่มเติมในรายละเอียด และนำเข้าสู่การประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.ในวันที่ 26 มิถุนายน 2563 เพื่อพิจารณาตัดสินใจ
“สถานการณ์ในประเทศตอนนี้มีเพียงผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศอยู่ในการกักตัวสังเกตอาการ มาถึงวันนี้จึงต้องพิจารณามาตรการเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า ผลจากโควิด 19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปมาทำธุรกิจได้ จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ยืนยันว่าการผ่อนคลายในแต่ละมาตรการจะพิจารณาอย่างรอบคอบ เราต้องหารือเกี่ยวกับวิธีการที่ปลอดภัยที่สุด ทั้งแพทย์และประชาชน ต้องรู้สึกว่าพอใจกับมาตรการที่เกิดขึ้นและให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด” นายอนุทินกล่าว