ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและศรีลังกาได้เปลี่ยนแปลงกลับไปสู่การพัฒนาอันแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลศรีลังกา นายหวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน ได้กล่าวในวันเสาร์ที่ผ่านมา (9 ก.ค.)
นายหวังได้ให้สัมภาษณ์ว่าการเดินทางมาเยือนประเทศศรีลังกาของเขามีจุดประสงค์เพื่อเร่งรัดการดำเนินการตามมติของผู้นำประเทศทั้งสอง อีกทั้งยังเพื่อทบทวนความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศอย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะสืบทอดมิตรภาพแบบดั้งเดิมต่อไป สร้างเสริมความไว้วางใจทางการเมือง และลงลึกในความร่วมมือทางปฏิบัติมากขึ้น เขากล่าว
ประเทศจีนและศรีลังกาอาจใช้โอกาสนี้ ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของพวกเขาอย่างเต็มที่ อีกทั้งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรม ด้วยโครงการขนาดใหญ่ เช่น Port City และ Hambantota Port ด้วยความคิดที่ต้องการยกระดับความสามารถในการพัฒนาตนเองของศรีลังกา
ทั้งสองประเทศจะจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตและการครบรอบปีที่ 65 ของสนธิสัญญายาง-ข้าวแห่งประวัติศาสตร์ในปีหน้า เขากล่าว
นับตั้งแต่สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนได้นำเสนอโครงการพื้นที่และเส้นทางเศรษฐกิจของจีน (Belt and Road Initiative)อีกทั้งการก่อสร้างเข็มขัดเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม (Silk Road Economic Belt) ก็กำลังเฟื่องฟู โครงการเส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ 21 (21st Century Maritime Silk Road) จึงควรมีการพัฒนาในระดับที่เท่าเทียมกัน นายหวังกล่าว
จีนหวังว่าศรีลังกาจะเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือที่สำคัญสำหรับการสร้างเส้นทางสายไหมทางทะเลร่วมกัน ด้วยความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์
ประเทศจีนจะสนับสนุนประเทศศรีลังกาผ่านโครงการเส้นทางสายไหมทางทะเล ในด้านการขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ และแม้แต่ศูนย์กลางทางการเงินในมหาสมุทรอินเดีย