ได้มีหนังสือจากสำนักงานจังหวัดจันทบุรี ที่ มท.02027 9515 วันที่ 18 มิ.ย.63 ลงนามโดย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เรื่อง อนุญาตให้ข้าราชการลาออกจากราชการ หนังสือส่งถึง นายวิทูรัช ศรีนาม ผวจ.จันทบุรี เนื้อหาระบุว่า ด้วยกระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งอนุญาตให้ นายวิทูรัช ศรีนาม ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ลาออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.63 เป็นต้นไป และได้มีหนังสือขอให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการดังกล่าวพ้นจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.63 เป็นต้นไปทั้งนี้ เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการพ้นจากตำแหน่งแล้ว กองการเจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง จึงเรียนมาเพื่อทราบ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับ นายวิทูรัช เคยขอลาออกจากราชการมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 7 ก.พ.61 โดยทำหนังสือแจ้งความประสงค์ไปยัง นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้เหตุผลว่า เพื่อรักษาไว้ซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศวงศ์ตระกูล และตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบ จากกรณีการใช้ถ้อยคำผิดพลาดในการต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขณะเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ ณ จ.จันทบุรี แต่มหาดไทยได้พิจารณาไม่อนุมัติการขอลาออกของ นายวิทูรัช แต่อย่างใด
สำหรับ นายวิทูรัช เข้ารับตำแหน่ง ผวจ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 30 มี.ค.59 โดยเป็นคนเรียบง่าย สมถะ เคยวางตัวเป็นชาวบ้านธรรมดาๆ คนหนึ่ง ขึ้นรถโดยสารในตัวเมืองจันทบุรี เพื่อต้องการรู้สภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริงและปัญหาของชาว จ.จันทบุรี บางครั้ง นายวิทูรัช ขับรถยนต์สภาพเก่าๆ เดินทางเพียงลำพังมายังหมู่บ้านบางแห่งใน อ.สอยดาว โดยไม่มีใครรู้ล่วงหน้า พูดคุยกับชาวบ้านถึงความเป็นอยู่ ปัญหาต่างๆ ที่ชาวบ้านประสบ
กระทั่งชาวบ้านต่างพากันสงสัยว่า นายวิทูรัช เป็นใคร ทำไมถึงอยากรู้ปัญหาสารพัดของชาวบ้านมากจนผิดสังเกต จนมีชาวบ้านบางคนจำได้ว่า นายวิทูรัช เป็น ผวจ.จันทบุรี จึงพากันรู้ว่า นายวิทูรัช ทำไมต้องการรู้ปัญหาชาวบ้านจากปากของชาวบ้านเอง โดยไม่ต้องมีใครมารายงาน ทำให้ชาวบ้านต่างมาพูดคุยกับ นายวิทูรัช อย่างเป็นกันเอง เนื่องจาก นายวิทูรัช เป็นคนเรียบง่ายไม่ถือตัวว่าเป็น ผวจ.แต่อย่างใด
ทั้งนี้ นายวิทูรัช จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ต.ค.63 นี้ และมีกระแสข่าวว่า หลังจากลาออกจากตำแหน่งแล้ว นายวิทูรัช จะอุปสมบทที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ก่อนจะกลับมาจำวัดภายใน จ.จันทบุรี ต่อไป