นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ นายจักรพล จงใจภักดิ์ ผอ.กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ นำเจ้าหน้าที่ออกตรวจร้านจำหน่ายเครื่องสังฆทาน และเครื่องสังฆภัณฑ์ เทียนพรรษา ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หรือลักลอบนำสินค้าหมดอายุ เสื่อมคุณภาพ และไม่ได้มาตรฐาน มาบรรจุใส่ชุดเครื่องสังฆภัณฑ์วางจำหน่ายในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ปี 2563 ที่ชาวไทยพุทธจะนิยมซื้อต้นเทียน และเครื่องสังฆภัณฑ์ไปทำบุญตามวัดต่างๆ เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณีอันดีงามของไทยเป็นประจำทุกปี ถึงแม้ว่าในปีนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอำเภอหลายแห่งจะงดประเพณีแห่เทียนพรรษา จากสถานการณ์โควิด-19
จากการออกสุ่มตรวจร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์พบว่า มีการปิดป้ายแสดงราคา และรายการสินค้าในชุดสังฆภัณฑ์ที่นำมาวางจำหน่าย อย่างไรก็ตาม หากได้รับร้องเรียนหรือสุ่มตรวจพบผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนไม่ปิดป้ายแสดงราคา หรือรายการสินค้าที่นำมาบรรจุในชุดเครื่องสังฆภัณฑ์ หรือนำสินค้าหมดอายุเสื่อมคุณภาพมาสอดไส้ในชุดสังฆภัณฑ์ และมีการจำหน่ายแพงเกินความเป็นจริง จะถูกดำเนินการเอาผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ขณะที่ผู้ประกอบการจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ ยอมรับว่า ปีนี้ได้นำเครื่องสังฆทาน และเครื่องสังฆภัณฑ์ เทียนพรรษามาขายน้อยลงกว่าทุกปี เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอำเภอหลายแห่งจะงดประเพณีแห่เทียนพรรษา ส่งผลทำให้ยอดจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ลดลงร้อยละ 20-30 ส่วนมากปีนี้ลูกค้าจะซื้อราคาถูกลง บางคนก็จะรวมซื้อเป็นกลุ่มหรือหมู่บ้านแทน
โดยการสุ่มตรวจร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หรือนำสินค้าหมดอายุเสื่อมคุณภาพมาสอดไส้ในชุดสังฆภัณฑ์วางจำหน่ายให้ลูกค้าที่จะซื้อไปทำบุญ
พร้อมกันนี้ ยังได้ย้ำเตือนผู้ประกอบการและพ่อค้าหัวใสที่ตระเวนซื้อเครื่องสังฆทาน และต้นเทียนพรรษาตามวัดต่างๆ ที่พุทธศาสนิกชนนำไปถวายพระแล้ว นำกลับมาเวียนขายในราคาถูก เพราะสินค้าบางประเภทที่บรรจุในชุดเครื่องสังฆภัณฑ์อาจหมดอายุ หรือเสื่อมคุณภาพ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อพระสงฆ์ หรือผู้ที่นำไปใช้ได้ หากตรวจพบก็จะดำเนินการเอาผิดผู้ประกอบการดังกล่าวเช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่พบมีการกระทำผิดแต่อย่างใด