ป.ป.ส. ย้ำพืชกระท่อมยังผิดกฎหมาย เคี้ยว-ขาย-ต้ม-แปรรูป ทำไม่ได้ ช่วงแพร่ระบาดโควิด-19 พบเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพืชกระท่อมเพิ่มสูงขึ้น พร้อมแจงความคืบหน้าการปรับสถานะพืชกระท่อม
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ... ) พ.ศ. ... หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “ร่างกฎหมายปรับสถานะพืชกระท่อมออกจากยาเสพติด” เสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 และอยู่ระหว่างการส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามที่มีการแก้ไข ก่อนส่งให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป แต่ขอเรียนย้ำให้พี่น้องประชาชนทราบว่าพืชกระท่อมยังเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 การเสพ ครอบครอง จำหน่าย หรือผลิต โดยการนำไปต้มในรูปแบบน้ำ หรือแปรรูปในรูปแบบอื่น ๆ ยังเป็นการกระทำความผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวต่อว่า ขณะนี้เกรงว่าจะเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่าสามารถเสพและปลูกพืชกระท่อมได้โดยไม่ผิดกฎหมายแล้ว เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ (ตุลาคม 2562) ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ส. (ศปก.ปปส.) พบว่ามีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการมั่วสุมเสพยาเสพติดผ่านสายด่วน 1386 รวม 655 เรื่อง ซึ่งเมื่อทำการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการมั่วสุมเสพพืชกระท่อม น้ำกระท่อม และ 4 x 100 (น้ำกระท่อมผสมกับยา/สารเสพติด/ยาเสพติดอื่น) ถึง 156 เรื่อง ประการสำคัญในจำนวนดังกล่าวเป็นข้อร้องเรียนที่เข้ามาในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 ถึง 72 เรื่อง หรือร้อยละ 46 ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการเตรียมการในระหว่างที่ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข หมู่บ้านและชุมชน ได้ดำเนินการสำรวจพื้นที่ที่มีความพร้อมในการบริหารจัดการพืชกระท่อมที่มีอยู่เดิมในพื้นที่ให้สามารถครอบครองและเสพได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้เตรียมประกาศและกำหนดแล้วจำนวน 135 หมู่บ้าน/ชุมชน ใน 10 อำเภอ 10 จังหวัด เป็นพื้นที่นำร่องในการศึกษารูปแบบการควบคุมพืชกระท่อมผ่านกลไกการควบคุมในชุมชน เพื่อป้องกันการใช้ผิดวัตถุประสงค์ และเป็นการศึกษาถึงการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ รวมถึงแนวทางการควบคุมที่จะสามารถนำมาใช้ภายหลังการปรับสถานะพืชกระท่อมในอนาคตอีกด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกกฎกระทรวงเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขของการเสพและการครอบครองพืชกระท่อมในพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่เป็นความผิด ซึ่งคาดว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ กระทรวงสาธารณสุขโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จะเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบเพื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนามและประกาศใช้ต่อไป โดยคาดว่าทุกขั้นตอนจะแล้วเสร็จประมาณเดือนสิงหาคม 2563 นี้
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า พืชกระท่อมยังเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย นโยบายการปรับสถานะพืชกระท่อมนั้นอยู่ในระหว่างดำเนินการ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ และหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1386 และข้อร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนถือเป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้สำนักงาน ป.ป.ส. เห็นถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป จึงขอความร่วมมือร่วมเป็นหูเป็นตากับทางราชการ หากพบเห็นการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดสามารถแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง