GPSC จับมือหน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการศึกษาในพื้นที่ พัฒนาโครงการโรงเรียนวิถีใหม่ หนุน รร.วัดตากวน จ.ระยอง ต้นแบบ ยุคนิวนอร์มอล เปิดรับภาคการศึกษาใหม่ ปรับหลักสูตรการเรียนการสอน เสริมทักษะกิจกรรมนอกห้องเรียน เพิ่มทักษะการเรียน ตอบโจทย์การศึกษาวิถีใหม่ พร้อมร่วมออกแบบอุปกรณ์ เครื่องมือ ป้องกันโควิด-19 นำนักศึกษาวิทยาลัยสารพัดช่าง และชุมชน ร่วมผลิตเพื่อสร้างรายได้เสริม
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า ในวันนี้ (9 กรกฎาคม 2563) ได้จัดพิธีส่งมอบ “โครงการโรงเรียนวิถีใหม่ (The New Normal School)” ให้กับโรงเรียนวัดตากวน ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง จ.ระยอง ซึ่งเปิดสอนระดับอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวนนักเรียนประมาณ 530 คน นับเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และวิทยาลัยอาชีวศึกษาในพื้นที่ ในการพัฒนาแบบบูรณาการ เพื่อยกระดับมาตรฐานโรงเรียนให้สอดรับกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในโรงเรียน ที่จะนำไปสู่การเป็นต้นแบบโรงเรียนวิถีใหม่ ที่มีการออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอนแบบบูรณาการ รวมทั้งติดตั้งอุปกรณ์และจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพให้เอื้อต่อการเรียนการสอนที่มีความปลอดภัย เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการราว 1 ล้านบาท และพร้อมที่จะสนับสนุนเรื่องการปรับหลักสูตรและติดตั้งอุปกรณ์ให้กับโรงเรียนอื่นๆ ในพื้นที่ระยองต่อไป
“เนื่องจากรัฐบาลได้มีการประกาศเปิดทำการเรียนการสอนของโรงเรียนทั่วประเทศในวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่ง GPSC เห็นความสำคัญในการส่งเสริมด้านการศึกษาอย่างมีคุณภาพให้กับเยาวชน จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในท้องถิ่น อาทิ หน่วยส่งเสริมสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองมาบตาพุด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และชุมชนรอบพื้นที่ เพื่อร่วมกันจัดทำโครงการโรงเรียนวิถีใหม่ต้นแบบ ในพื้นที่ จ.ระยอง ให้สามารถขยายผลองค์ความรู้ไปยังโรงเรียนอื่นที่มีความสนใจ หรือโรงเรียนที่มีจำนวนครูไม่สอดคล้องกับจำนวนชั้นเรียน โดยสามารถนำรูปแบบการบริหารจัดการด้านการศึกษาในวิถีใหม่ไปประยุกต์ใช้ เพื่อยังคงรักษามาตรฐานในการป้องกันโรคโควิด- 19 ที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าว” นายชวลิต กล่าว
GPSC ได้ร่วมจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนแบบบูรณาการตามหลักการ Social Distancing ปีการศึกษา 1 / 2563 โดยมีการออกแบบตารางการเรียนการสอนให้กับโรงเรียนวัดตากวน โดยใช้วิธีสลับวันมาเรียน สอดคล้องกับตารางเรียนออนไลน์ของช่อง DLTV เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้พื้นที่ตามมาตรการป้องกันแพร่ระบาด รวมทั้งลดจำนวนนักเรียนที่อยู่ในชั้นเรียนตามจำนวนที่นั่งในห้องเรียนลง จากจำนวนนักเรียน 36 คนต่อชั้นเรียนให้เหลือ 18 คนต่อชั้นเรียน รวมถึงแนวทางประเมินผลการเรียน การจัดระบบการเรียนการสอนในรูปแบบของกิจกรรมตามฐานที่เสริมสร้างทักษะ สาระ ความรู้ที่หลากหลาย และวางระบบการให้คะแนนจากการทำกิจกรรม มากกว่าการสอบข้อเขียน เป็นต้น ซึ่งจะทำให้นักเรียนได้มีโอกาสพัฒนาความรู้รอบด้านและสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ภายใต้สถานการณ์ไม่ปกติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยยังคงสามารถปรับวิถีการเรียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับการติดตามผล ประเมินผล ระยะเวลาอย่างน้อย 1 ภาคเรียน เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ได้ นำมาประมวลผลในการจัดทำหลักสูตรการสอนแนวใหม่ ตอบโจทย์การศึกษาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ขณะเดียวกันยังได้มีการออกแบบและผลิตอุปกรณ์ เครื่องมือการเรียนการสอน ประกอบด้วย ฉากกั้นป้องกันการแพร่กระจายเชื้อซึ่งผลิตจากแผ่นอะคริลิค เพื่อติดตั้งในห้องเรียนทุกระดับชั้น จำนวน 264 ชิ้น เครื่องล้างมืออัตโนมัติ จำนวน 8 เครื่อง มีการออกแบบวางระบบให้สามารถเคลื่อนที่ได้สะดวก มีถังบรรจุน้ำอิเล็กโทรไลต์ หรือเจลเพื่อล้างมือ และการติดตั้งป้ายสื่อความ Social Distancing ตามจุดต่างๆภายในโรงเรียน
ในการดำเนินการโครงการดังกล่าว GPSC ได้พัฒนาอุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุข และหน่วยงานในท้องถิ่น เพื่อนำไปใช้และปฏิบัติในโรงเรียนวิถีใหม่ เป็นการเสริมสร้างความรู้ และความเข้าใจ ด้านความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด- 19 ให้กับนักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากรในโรงเรียน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมทักษะความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านช่าง ให้กับนักเรียนสายอาชีวศึกษา และยังสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนที่ประสบปัญหาการว่างงาน จากผลกระทบโควิด-19 ซึ่งโครงการนี้ยังได้มีการจัดจ้างชุมชน คนว่างงาน นักศึกษาจากวิทยาลัยสารพัดช่าง ร่วมกันจัดทำอุปกรณ์ป้องกันการแพร่เชื้อด้วย นับเป็นแนวทางและนโยบายของ GPSC ที่จะดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล ที่ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม โดยการเข้าไปมีส่วนในการยกระดับคุณภาพชีวิต ด้านการศึกษา สุขอนามัย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคส่วน นำมาซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศให้มีความแข็งแกร่งและยั่งยืน