นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เผยว่าได้รับรายงานจาก นายชยุต วราพิริยะกุล หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้วังน้ำเขียว ได้รายงานการเข้าปฏิบัติการจับกุมผู้กระทำผิดแอบลักลอบเข้ามาขโมยไม้ของกลางภายในหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.4 (เขาภูหลวง) จังหวัดนครราชสีมา โดยตนได้มอบหมายให้นายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล รองอธิบดีกรมป่าไม้ ลงพื้นที่ไปอำนวยการติดตามผลการปฏิบัติงานและขยายผลการจับกุมดำเนินคดี ซึ่งการปฏิบัติการในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ได้ประสานงานบูรณาการร่วมกับตำรวจ นำโดย พ.ต.อ. ประชุม แถมกลาง ผกก.สภ.อุดมทรัพย์
อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ ซุ่มสกัดจับกลุ่มคนร้าย
ภายหลังได้รับรายงานจากทางสายข่าวว่าได้มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งได้แอบลักลอบเข้ามาขโมยไม้ของกลางที่เก็บรักษาไว้ในหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.4 (เขาภูหลวง) อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา โดยทางเจ้าหน้าที่ได้วางแผนปล่อยให้กลุ่มคนร้ายขนไม้ของกลางขึ้นรถกระบะปิกอัพสีขาว หมายเลขทะเบียน ผต 7712 อุบลราชธานี และทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมกำลังซุ่มดักรออยู่บริเวณทางออกหมู่บ้าน พร้อมทั้งใช้รถไถจอดขวางกั้นเพื่อไม่ให้กลุ่มคนร้ายเคลื่อนย้ายไม้ของกลางออกไปยังถนนสาย 304 เมื่อกลุ่มคนร้ายขับรถมาถึงจุดสกัดจับและไม่สามารถขับรถ
ต่อได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น เบื้องต้นพบไม้ของกลางบรรทุกอยู่เต็มท้ายกระบะโดยมีผ้าใบสีดำคลุมปิดทับไว้อย่างมิดชิด โดยกลุ่มคนร้ายไม่ยอมให้ตรวจค้นจนเกิดเหตุยิงปะทะกันระหว่าง
กลุ่มคนร้ายและเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย มีคนร้ายได้รับบาดเจ็บบริเวณขา
1 ราย จากการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ สำหรับผู้ต้องหาที่เหลืออาศัยความมืดหลบหนีไปได้ จากการสอบถามของเจ้าหน้าที่เบื้องต้น ผู้ต้องหากล่าวว่าจะนำไม้ของกลางที่แอบลักลอบนำออกมาทั้งหมดเดินทางไปยัง
อ.ช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่ สภ.อุดมทรัพย์ เพื่อสอบสวนขยายผล
และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้หากไม้ของกลางดังกล่าวได้ถูกขนย้ายและนำไปขาย ซึ่งไม้ทั้งหมดนั้นเป็นไม้พะยูงปริมาตรรวมกว่า 1 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 300,000 บาท ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่
ที่ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าทั่วประเทศให้จัดเวรยามเฝ้าระวังและตรวจสอบทำบัญชีไม้ของกลางที่จับกุมได้ เพื่อที่จะสามารถตรวจเช็คได้ตลอดเวลา และทางกรมป่าไม้ต้องขอขอบคุณรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอุดมทรัพย์ สำหรับความร่วมมือในการร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้