โลกของจีน :โดย ชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ
จากชาติที่เคยถูกเยาะเย้ยถากถางว่าสกปรก “ขี้โรคแห่งเอเชีย” แต่เมื่อเผชิญโรคอุบัติใหม่ COVID-19 จีนใช้เวลาต่อสู้แค่ไม่กี่เดือน ก็สามารถควบคุมได้โดยมีผู้เสียชีวิตน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร โดยความสำเร็จนี้สะท้อนระเบียบวินัยของคนในชาติ เมื่อเทียบกับชาติตะวันตกที่กำลังเผชิญCOVID-19 แบบไร้จุดจบ
ขณะเดียวกันจีนได้เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสด้วยการสร้างนวัตกรรมด้านการแพทย์ วันนี้โรงงานที่จะผลิตวัคซีนรักษาCOVID-19 สร้างเสร็จแล้ว เมื่อผลการทดลองพร้อมจะสามารถผลิตเพื่อใช้ทั้งในประเทศและส่งออกไปช่วยนานาชาติเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาด
มองจีนภายใต้ “พรรคคอมมิวนิสต์จีน” เทียบกับสหรัฐอเมริกาภาคใต้ “พรรครีพับลิกัน” แล้วโลกกำลังงุนงงสับสน
มหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกที่อ้าง “เสรีนิยมประชาธิปไตย” แต่ทำตัวกระหายสงคราม เพราะมีบริษัทเอกชนที่ค้าอาวุธอยู่เบื้องหลังรัฐบาล ชอบครอบงำและรุกรานต่างชาติ ชอบอ้างประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ฯลฯ เข้าแทรกแซงการเมืองต่างชาติ เข้ายึดครองดินแดนที่มีทรัพยากรพลังงาน จัดการเลือกตั้งเพื่อให้มีรัฐบาลที่เป็นหุ่นเชิด
วันนี้มหาอำนาจที่เคยสร้างกฎการค้าเสรี กลับฉีกกฎตัวเอง แล้วทำตัวเป็น“ขี้แพ้ชวนตี” เพราะทำการค้าเสรีแล้วขาดทุนสู้นานาชาติไม่ได้ กลับมาตั้งกำแพงภาษี ก่อสงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี และสงครามการเงิน
สาธารณรัฐประชาชนจีนที่ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ที่เคยถูกสร้างภาพว่าเป็นปีศาจร้าย เป็นเผด็จการ กลับเรียกร้องการค้าเสรี เรียกร้องสันติภาพ ริเริ่มโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่เป็นความร่วมมือนานาชาติเพื่อพัฒนาการขนส่งที่ส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ
ข้อดีของยุคดิจิทัลคือ ทำให้โลกได้รู้ความจริงระหว่างภาพที่ปั้นแต่งจากการโฆษณาชวนเชื่อ กับตัวตนที่แท้จริงของแต่ละฝ่าย ที่เดี๋ยวนี้หลอกลวงกันไม่ได้แล้ว
เวลา 99 ปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่า “โชคชะตา” ของประชาชนจะดีหรือร้ายนั้น ฟ้าไม่ได้กำหนดแต่เป็นผลงานของผู้ปกครอง ถ้าผู้นำมีอุดมการณ์ที่ดี “อนาคต”สร้างได้หากมีเป้าหมายและความมุ่งมั่น
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้กล่าวในโอกาสครบรอบ 99 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่า “พรรคคอมมิวนิสต์จีน ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงอนาคตและโชคชะตาของชาวจีนและประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนแนวโน้มและรูปแบบการพัฒนาของโลกอย่างลึกซึ้ง”
เราไม่อาจปฏิเสธว่า “จีน”ในยุคปัจจุบันมีบทบาทต่อทิศทางใหม่ของมนุษยชาติ นั่นคือการร่วมมือสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าเดิมอย่างสันติสุข
ชาติมหาอำนาจไม่อาจใช้การรุนรานเพื่อครอบครองและยื้อแย่งทรัพยากรอีกต่อไป แต่จะเป็นมหาอำนาจได้ด้วยการร่วมมือเพื่อพัฒนาและแบ่งปันอย่างยุติธรรม ด้วยการยื่นมือเพื่อช่วยเหลือผู้อ่อนแอและก้าวเดินไปพร้อมกันอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี