DigiC 336
องค์กรแปลงร่างเป็น “New normal” แบบดิจิทัล
สตีฟจ๊อบ ผู้ก่อตั้ง Apple เคยกล่าวไว้ว่า “Sometimes life is going to hit you in the head with a brick. Don’t lose faith,” แปลความหมายได้ว่า “บางครั้งชีวิตก็อาจตีหัวคุณด้วยก้อนอิฐ จงอย่าสิ้นศรัทธา” และนี่คือประโยคที่อาจช่วยให้กำลังใจกับหลายๆ องค์กรที่กำลังเผชิญกับสถาการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในโลกกับการระบาดของโรคโควิด-19 ให้สู้ต่อไปด้วยความศรัทธา
ซึ่งสำหรับวิกฤตที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้หลายองค์กรส่วนใหญ่มีความกังวลถึงเรื่องความปลอดภัยและสุขภาพของพนักงาน โดยปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของพนักงานโดยการให้ทำงานอยู่ที่บ้าน (Work from home) เพื่อลดการระบาดและลดการติดเชื้อของโรคระหว่างการเดินทางมาทำงาน
เมื่อหลายองค์กรให้พนักงานสามารถ Work from Home หรือทำงานที่ไหนก็ได้แล้ว เป็นยุคที่ทุกคนต้องแปลงร่างเป็น New Normal แบบดิจิทัล โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการทำงานมากกว่าเดิม องค์กรต้องมีการออกแบบระบบเครือข่ายให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพใกล้เคียงกับที่สำนักงาน รวมถึงต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่จำเป็นของธุรกิจ มีความปลอดภัยของข้อมูล ความเร็วของเครือข่าย การจัดการการสื่อสาร และการดูแลพนักงาน
จึงต้องถือว่า มาตรการ Work from home เป็นเรื่องที่องค์กรต้องเตรียมตัว ซึ่งหลายองค์กรแปลงร่างโดยการนำระบบออนไลน์หรือแอปพลิเคชัjนเข้ามาตอบสนองระบบการสื่อสารในการทำงาน เช่น การประชุมภายในองค์กร โดยใช้แอปพลิเคชัjน Zoom, Google Hangout Meets, Microsoft Teams, Skype หรือการทำธุรกรรมออนไลน์ก็นำ Online Banking หรือ Internet และ E-wallet เข้ามาใช้
ซึ่งภายใต้วิกฤตโควิดที่หลายองค์กรเจอในครั้งนี้ อาจไม่ใช้สิ่งที่เลวร้ายไปซะหมด การเตรียมความพร้อมขององค์กรกับพนักงานและธุรกิจก็เป็นจุดตั้งต้นไปสู่ New Normal โดยใช้ดิจิทัลเข้ามาช่วยสนับสนุนองค์กร โดยสามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการทำธุรกิจ และปรับตัวเข้าสู่ตลาด e-Commerce มากขึ้น การติดต่อกับลูกค้าทางออนไลน์สามารถสั่งของซื้อของได้สะดวกสบาย
ดังนั้น เครื่องมือสำคัญที่จะนำพาองค์กรออกจากวิกฤตนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือเทคโนโลยีดิจิทัล และ Mindset ของคนในองค์กรที่ต้องปรับเปลี่ยนและแปลงร่างเป็น “New normal” แบบดิจิทัล