ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ย้อนกลับ
อุโมงค์ไฟไล่เผาสุขุมพันธุ์วิบากกรรมบนทางสองแพร่ง
04 ส.ค. 2559

          พลันที่รายงานข่าวปรากฏออกมา เช้าวันเดียวกันนั้น ก็มีปฏิกิริยาสนองตอบ และก็เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ให้สื่อเล่นกันถึง 3วัน ซึ่งเรื่องที่ว่านี้จะเป็นเรื่องอื่นไปเสียมิได้นอกจากกรณีอุโมงค์ไฟกทม. หลังจากที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ส่งลูกไปที่ต้นสังกัดย่านคลองหลอด ให้จัดการกับผู้ว่าฯกทม.ที่ชื่อ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร หรือคุณชายหมู ท่ามกลางข้อสงสัยทำไม ? เกิดอะไรขึ้น ? เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกรรม หรือ เกมทางการเมือง ???
          เช้าวันที่ 12 กรกฎาคม มีรายงานข่าวบอกว่า นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมแนบสำเนาหนังสือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กรณีโครงการค่าใช้จ่ายประดับตกแต่งไฟฟ้าฯอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 และมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินพ.ศ.2542 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการทางอาญา วินัยและละเมิดประกอบมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการเร่งรัด ติดตามเกี่ยวกับกรณีเงินขาดบัญชี หรือเจ้าหน้าที่ทุจริต พ.ศ.2546 จึงให้ดำเนินการทางอาญา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และพวก 
          ก่อนหน้านี้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน มีมติ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กับพวกรวม 13 ราย มีพฤติการณ์เชื่อได้ว่าใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบก่อให้เกิดความเสียหายแก่เงินและทรัพย์สินของแผ่นดิน และเข้าข่ายเป็นตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2542 จึงเห็นชอบเอาผิดกับทั้งหมด พร้อมส่งเรื่องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ไต่สวน รวมถึงให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 พักราชการไว้ก่อน
          วันที่ 12 ก.ค. ของเช้าวันเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บอกว่า สตง. แจ้งมา 2-3 ประการให้สอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งกระทรวงได้แต่งตั้งคณะกรรมการแล้ว และยังให้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ว่าฯกทม. ให้ตั้งกรรมการสอบวินัยเจ้าหน้าที่กทม. หากพบความผิดก็ให้ฟ้องแพ่ง ซึ่งกระทรวงได้ดำเนินการตามที่สตง. แจ้งมาแล้ว ในส่วนการแจ้งความเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนต่อไป ส่วนจะปลดหรือพักงาน ผู้ว่าฯกทม.ได้หรือไม่ ต้องรอให้คดีถึงสิ้นสุดก่อน ให้คณะกรรมการสรุปข้อเท็จจริงแล้วดูตามระเบียบกฎหมายที่จะดำเนินการได้
          ช่วงบ่ายของวันที่ 12 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการใช้งบประมาณโครงการต่างๆที่ไม่โปร่งใสของกทม. ว่า การตรวจสอบมีขั้นตอนวิธีการ และกระทรวงมหาดไทยที่กำกับดูแล จะต้องมีการสอบสวน ต้องรอขั้นตอนการสอบสวนก่อนจากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนอื่นๆ ทุกอย่างมีกฎหมายรองรับ เมื่อมีการร้องทุกข์ก็สอบสวนหาที่มา แต่ยังไม่จำเป็นให้ศอตช. ตรวจสอบ รอให้มีกระบวนการสอบสวนก่อน เพราะประเด็นนี้หน่วยงานต้องสอบสวนข้อเท็จจริง หากเห็นว่ามีมูลความผิดก็จะเข้าสู่กระบวนการ ทั้งหน่วยงานขอรัฐและหน่วยงานอิสระ และขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เข้ามาดำเนินการ
          วันถัดมา 13 ก.ค. นายกฤษฎา กล่าวถึงขั้นตอนเมื่อได้รับรายงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถูกกล่าวหาต้องแจ้งให้หน่วยงานนั้นทราบ ส่วนการดำเนินคดีอาญา หัวหน้าหน่วยงานเสียหายต้องเป็นผู้ไปแจ้งความ และต่อมาวันที่ 14 กรกฎาคม พล.อ.อนุพงษ์ บอกว่าตั้งกรรมการสอบสวน 90 วัน ขณะวันเดียวกัน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็ออกมาบอกว่า ได้ลงนามคำสั่งให้ปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันสตง. เป็นเพียงหน่วยงานที่ตั้งข้อสังเกตเพื่อส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ไต่สวนชี้มูลความผิด ดังนั้นทั้งส่วนตัวและข้าราชการที่ถูกกล่าวหาถือว่าอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ยังคงทำหน้าที่เดิมต่อไป
          อย่างไรก็ตามตัวละครสำคัญที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ นั่นเพราะถือว่าเป็นต้นเรื่องก็คือ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส. กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กระนั้นการออกมาแฉแหลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจมีเป้าประสงค์ที่แท้อยู่ที่ตัว คุณชายสุขุมพันธุ์ หรือไม่ ทั้งมีการตั้งข้อสังเกตของคอการเมืองว่า แท้แล้วนี่คือเกมสกัดผู้ว่าฯกทม.ที่อาจจะเบนเป้าไปสู่สนามการเมืองใหญ่หลังหมดวาระลงไปปีหน้า ซึ่งก็ประจวบเหมาะกับช่วงเวลานั้นประเทศไทยจะมีการเลือกตั้ง
          " ที่ผ่านมาไม่ได้ตรวจสอบ ก็ใครจะไปรู้ว่าจะโกงกันขนาดนี้ แล้วข้อมูลก็มีคนส่งมา จึงรู้ว่าทุจริตกัน ที่ผมทำทุกโครงการรับรองได้ว่ามีทุจริตแน่นอน โดยเฉพาะอุโมงค์ไฟ แต่จะถึงผู้ว่าฯหรือไม่ อยู่ที่ปปช.จะตรวจสอบ ตรงนี้บอกไม่ได้ เรื่องนี้ผู้ว่าฯอาจไม่รู้ แต่ก็เป็นคนมอบให้คนอื่นดู และคนที่มาดูกลับทุจริต ตรงนี้ผู้ว่าฯก็ต้องรับผิดชอบด้วย ส่วนต้องรับผิดชอบแค่ไหน ปปช.จะสอบเอง " นายวิลาศ กล่าว
          ทั้งนี้นายวิลาศ ยืนยันเสียงแข็งว่า การเดินหน้าตรวจสอบไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งของพรรคประชาธิปัตย์กับผู้ว่าฯกทม. ทั้งยังไม่ใช่เรื่องการเมืองระหว่างตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับตัวคุณชายสุขุมพันธุ์ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่านี่อาจเป็นการทุบให้ซ้ำ เพื่อสกัดไม่ให้เจ้าของวังสวนผักกาดกระโจนไปทำการเมืองร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้อย่างสะดวกสบาย ย้ำว่าเรื่องการตรวจสอบของตนไม่เกี่ยวกับหัวหน้าอภิสิทธิ์ 
          " เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณอภิสิทธิ์ เกือบไม่ได้เจอกันเลย ปีหนึ่งเจอกันครั้ง ผมไม่เคยบอกเวลาเข้าไปแถลงที่พรรค ไม่เคยบอกว่าจะแถลงเรื่องอะไร ส่วนเขาจะไปลงเลือกตั้งผมก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง แต่ที่ผมทำไม่เกี่ยวการเมืองแค่ตรวจสอบคนทุจริต ยิ่งเป็นพรรคเดียวกันต้องล่อให้หนัก " เสียงยืนยันของนายวิลาศ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็อยู่ที่วิจารณญาณของเหตุผลแต่ละคน แต่ที่แน่ๆงานนี้ก็ทำเอาคนเคยรู้จักบาดเจ็บไปไม่น้อย แม้ยังไม่มีบทสรุปโทษความผิดออกมาจากปปช. และนี่ต้องถือว่าเป็นวิบากกรรมบนทางสองแพร่งที่คุณชายสุขุมพันธุ์ ยากจะเลี่ยงหรือหลบพ้นทางใดทางหนึ่ง

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...