นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่ากรมฯ ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจนไน อินเดียถึงแนวโน้มความต้องการเครื่องจักรกลทางการเกษตรเพราะขณะนี้อินเดียกำลังเข้าสู่ฤดูการเพาะปลูกผลผลิตในภาคการเกษตรทำให้ต้องการเครื่องจักรกลการเกษตร โดยเฉพาะรถแทร็กเตอร์มากขึ้นและยังต้องการรถไถพรวน เครื่องมือปักกล้า เครื่องเกี่ยวข้าว เครื่องตัดอ้อยเครื่องมือเก็บเกี่ยวผลผลิตเกษตร และอุปกรณ์และชิ้นส่วนเพิ่มมากขึ้นด้วย
“อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านการเกษตรของโลกมีผลผลิตภาคเกษตรหลากหลายประเภท เช่น ฝ้ายและเส้นใยธรรมชาติ พืชหัว ถั่วเมล็ดแห้งมะพร้าว อ้อย พืชผักต่างๆ และเป็นผู้ผลิตข้าวสาลีและข้าวรายสำคัญของโลก
แต่ในช่วงการปิดประเทศช่วงโควิด-19ส่งผลให้ภาคเกษตรของอินเดียได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนแรงงานเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวและผลผลิตยังได้รับผลกระทบจากการระงับการขนส่ง และขณะนี้ เป็นฤดูการผลิตใหม่จึงต้องเร่งเพาะปลูก ทำให้มีความต้องการเครื่องไม้เครื่องมือที่จะนำไปใช้เพิ่มขึ้น”
นางสาวจิตติมา นาคมโนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจนไน อินเดีย กล่าวว่ารัฐบาลอินเดียกำลังใช้นโยบายสนับสนุนเกษตรกร ในการซื้อรถแทรกเตอร์และเครื่องจักรทางการเกษตรต่างๆ โดยให้การอุดหนุนร้อยละ 25 ของราคาเครื่องจักร ทำให้มีความต้องการซื้อรถแทรกเตอร์และเครื่องจักรทางการเกษตรเพิ่มขึ้นจึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ที่จะขยายตลาดรถแทรกเตอร์ เครื่องจักรเกษตรกรอุปกรณ์และชิ้นส่วนเครื่องจักรเข้ามาในตลาดอินเดีย
ทั้งนี้แม้อินเดียจะผลิตเครื่องจักรเกษตรอยู่แล้ว แต่ยังมีความต้องการนำเข้าจากต่างประเทศโดยแหล่งนำเข้าหลักมาจากจีน อิตาลี ญี่ปุ่น และเยอรมนี ในช่วงปี 2562 มีการนำเข้ารวม 16.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วง 2 เดือนของปี 2563 (มกราคม – กุมภาพันธ์)ไทยเป็นแหล่งนำเข้าเครื่องจักรเกษตรอันดับที่ 5ของอินเดียรองจากจีน เดนมาร์ก อิตาลี และญี่ปุ่น โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยยังกระจุกอยู่ในกลุ่มชิ้นส่วนเครื่องจักรกลเกษตร แต่ผลจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นทำให้ไทยมีโอกาสส่งออกรถแทรกเตอร์ และเครื่องจักรเกษตรได้
“ตอนนี้อินเดียนำเข้าเครื่องจักรเกษตรจากจีนเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากปัจจัยด้านราคาแต่จากกระแสต่อต้านสินค้าจีนในอินเดียที่ขยายวงกว้างมากขึ้นจึงจะเป็นโอกาสให้กับประเทศต่างๆ ที่จะนำเสนอทางเลือกใหม่ให้กับภาคเกษตรของอินเดียและไทยมีศักยภาพในการผลิตเครื่องมือ และเครื่องจักรเกษตรอยู่มากจึงควรพิจารณาขยายการส่งออกมายังอินเดียเพราะรูปแบบการผลิตภาคเกษตรคล้ายคลึงกับไทย ไม่ว่าจะเป็นการปลูกข้าว อ้อยพืชสวนพืชไร่ต่างๆ” นางสาวจิตติมากล่าว
อย่างไรก็ตามมีรายงานยอดจำหน่ายของบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรเกษตร เช่น มหินทราแอนด์มหินทราโซนาลิกาแทร็กเตอร์ หรือเอสคอร์ต อะกริ แมชชินเนอรี ต่างก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ในเดือนมิถุนายน 2563 โดยบริษัทมหินทราแอนด์มหินทรา ผู้ผลิตรถแทร็กเตอร์ และเครื่องจักรเกษตรอันดับหนึ่งของโลกจากอินเดีย รายงานยอดขายรถแทร็กเตอร์และเครื่องจักรเกษตรในช่วงเดือนมิถุนายน2563มียอดจำหน่าย 35,844 คัน ขณะที่บริษัท โซนาลิกา แท็กเตอร์ขายได้จำนวน 13,691 คัน และบริษัท เอสคอร์ต อะกริแมชชินเนอรี มียอดขายในช่วงเดียวกัน จำนวน 12,623 คัน