นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2563 ที่ห้องประชุมภักดีบดินทร์ ทําเนียบรัฐบาล เป็นการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.)ที่ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้มีมติเห็นชอบให้มีการประกันรายได้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในฤดูการผลิตที่จะมาถึงนี้ รายละเอียดหลักการทั้งหมดก็เป็นไปทางเดียวกับที่ได้ประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวมาเมื่อปีที่ผ่านมาทั้งชนิดของข้าวทั้ง 5 ชนิด และในเรื่องของวงเงินประกันรายได้ก็เช่นเดียวกัน
โดยทั้งหมดนี้จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 เป็นต้นไปจนกระทั่งสิ้นฤดูการผลิตประมาณเดือนพฤษภาคมปีหน้า นี่คือประกันได้ได้ นอกจากนั้นก็มีมาตรการเสริมในเรื่องข้าว ประการที่หนึ่งจะให้มีการชะลอการขายข้าว ถ้าสมมุติเป็นระยะเวลาที่ข้าวออกมาก ซึ่งจะไปกดราคาตลาดของข้าวถ้าเป็นเกษตรกรเก็บข้าวไว้ไม่ขายจะมีเงินชดเชยให้ 1500 บาทต่อตัน ถ้าเป็นสถาบันเกษตรกรก็จะมีเงินให้ 1,500 บาทเหมือนกันแต่สถาบันจะได้ 1,000 บาทและเกษตรกรจะได้ 500 บาท และจะช่วยในเรื่องของเงินกู้โดยรัฐบาลจะช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 สำหรับสถาบันเกษตรกรและโรงสี ที่ไปซื้อข้าวมาเก็บไว้ในช่วงที่ข้าวออกมากเพื่อไม่ทำให้ข้าวราคาตกโดยจะช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 ส่วนมาตรการเสริมสุดท้ายสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนั้นจะช่วยในเรื่องของค่าบริหารจัดการและการปรับปรุงคุณภาพ รายละไม่เกิน 20 ไร่ ไร่ละ 1,000 บาท
" ซึ่งในอดีตนั้นเราแบ่งออกเป็น 2 ก้อน ก้อนที่หนึ่งก็คือต้นทุน500บาท กับเรื่องของค่าเก็บเกี่ยว 500 บาท ซึ่งในอดีตนั้นก็มีปัญหามาโดยตลอดเพราะค่าเก็บเกี่ยวบางครั้งเวลาเกิดภัยพิบัติไม่มีข้าวให้เก็บเกี่ยวก็เป็นประเด็นปัญหาว่าควรจะได้ 500 บาทหรือไม่ สุดท้ายจึงใช้วิธีเอามารวมกันให้ไร่ละ 1,000 บาทแต่ไม่เกิน 20 ไร่ ซึ่งเรียกว่าค่าบริหารจัดการและปรับปรุงคุณภาพ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร" นายจุรินทร์ กล่าว
รายงานข่าว ระบุด้วยว่า มติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 โดยกำหนดราคาเป้าหมายและปริมาณต่อครัวเรือนเท่ากับปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยข้าว 5 ชนิดดังนี้ คือ
1.ข้าวหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน
2.ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
3.ข้าวเจ้า 10,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน
4.ข้าวหอมปทุมธานี 11,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน
5.ข้าวเหนียว 12,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
และรายงานข่าวระบุว่าในที่ประชุมนบข.วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในส่วนของการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ต้องไปติดตามว่าผลการลงทะเบียนเป็นอย่างไรบ้างเพื่อให้ภาครัฐได้ไปบริการจัดการในหลายด้าน ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้นายก ได้แจ้งกับที่ประชุมว่า ชาวนาพิจิตร พอใจกับข้าว กข43 ซึ่งได้ราคาดี และกล่าวชื่นชมนายจุรินทร์สำหรับโครงการเกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด ที่มีการเปิดเสนอส่วนงานด้านอาหารไทยอาหารโลกเมื่อวานนี้โดยบอกว่าติดตามชมอยู่และเป็นเรื่องดีที่ดูแลตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง