สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ออกประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่สํานักงาน ปปง. เรื่องให้ผู้เสียหายยื่นคําร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทําความผิดมูลฐานด้วยสํานักงาน ปปง.ได้ดําเนินการส่งสํานวนคดีตรวจสอบและการดําเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน นายประเสริฐ ภู่พิสิฐ กับพวก ไปยังพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 3 เพื่อขอให้ศาลแพ่งมีคําสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน และพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 3 ได้พิจารณายื่นคําร้องต่อศาลแพ่งแล้ว ตามคดีหมายเลขดําที่ ฟ. 46/2549 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2559 ขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการไต่สวนพยานบุคคลฝ่ายผู้ร้อง โดยศาลแพ่งอยู่ระหว่างนัดพร้อมเพื่อรอการดําเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
“อาศัยอํานาจตามความในข้อ ๔ แห่งระเบียบคณะกรรมการธุรกรรมว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๕๙ จึงขอให้ผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายในทางทรัพย์สินจากการกระทําความผิดมูลฐานในรายคดีข้างต้น และไม่อาจดําเนินการเพื่อขอคืนทรัพย์สินหรือชดใช้คืนความเสียหายดังกล่าวได้ตามกฎหมายอื่นหรือดําเนินการตามกฎหมายอื่นแล้วแต่ไม่เป็นผล ยื่นคําร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหาย และจํานวนความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สํานักงาน ปปง.ภายในกําหนดเวลา ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ ตามแบบคําร้องเพื่อขอให้ศาลนําทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดไปคืน หรือชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.amlo.go.th”
มีรายงานว่า สำหรับคดีทุจริตลำไย เมื่อปี 2547 สำนักงาน ปปง.ได้ตรวจสอบที่มาที่ไปของเงิน รวมทั้งตรวจสอบการจ่ายภาษี สำหรับรายชื่อผู้ถูกขึ้นบัญชีดำแล้ว 7 ราย โดยคดีของนายประเสริฐ ภู่พิสิฐ หรือโกเก้า อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น นำกำลังเจ้าหน้าที่ ปปง.และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 เข้าตรวจอายัดทรัพย์สินผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตลำไยปี 2547 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน โดยเฉพาะบริษัท พิสิฐอุตสาหกรรม จำกัด ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน และโรงงานไม้อัดลำพูน ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ของ “โกเก้า” หรือนายประเสริฐ ภู่พิสิฐ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน รวมถึงบ้านภรรยา และเครือญาติ เครือข่ายจุดรับซื้อที่มีทั้งนักธุรกิจ และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน