เวียงจันทน์, 29 ก.ค. (ซินหัว) — ข้อมูลจากผลสำรวจการบริโภคและการใช้จ่ายของลาวระหว่างปี 2018-2019 ระบุว่าอัตราความยากจนในลาวลดลงแตะร้อยละ 18.3 เนื่องจากมีการปรับปรุงความสามารถในการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะด้านไฟฟ้าบนท้องถนน น้ำสะอาด และการเข้าถึงสุขาภิบาล
หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ ไทมส์ (Vientiane Times) รายงานผลสำรวจข้างต้นเมื่อวันพุธ (29 ก.ค.) โดยระบุว่าการบริโภคและการใช้จ่ายของครัวเรือนในลาวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของการบริโภคอาหาร ขณะที่ความยากจนลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูได้จากอัตราความยากจน ช่องว่างความยากจน และระดับความรุนแรงที่ล้วนปรับลดลง
โดยภาพรวม การบริโภคและการใช้จ่ายของครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากครอบครัวต่างๆ ทยอยปรับเปลี่ยนจากการบริโภคข้าวเป็นอาหารเพื่อสุขภาพประเภทอื่น ตลอดจนลดการบริโภคผลิตผลของตนเอง แล้วหันไปหาซื้ออาหารจากตลาดเพิ่มขึ้น
สำนักงานสถิติประเทศลาว (Lao Statistics Bureau) ระบุว่าการสำรวจข้างต้นมีการจัดทำทุก 5 ปี นับตั้งแต่ช่วงปี 1992-1993 โดยระยะเวลากว่า 12 เดือนตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2018 ถึงมิถุนายน 2019 นั้น มีการเก็บข้อมูลและการสัมภาษณ์ในหมู่บ้านกลุ่มสำรวจ 636 แห่ง และครัวเรือนกลุ่มสำรวจ 10,176 ครัวเรือน
วัตถุประสงค์ของการสำรวจดังกล่าวคือการรวบรวมและรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการบริโภคและการใช้จ่ายของครัวเรือน การผลิต และการเข้าถึงบริการสาธารณะ เพื่อสนับสนุนการติดตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (National Socio-Economic Development Plan) และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs)
ด้านรายงานประจำวันระบุว่ารัฐบาลลาวได้สนับสนุนการสำรวจนี้ด้วยการสนับสนุนทางเทคนิคจากธนาคารโลก